รวบอดีตหน่วยรบพิเศษ ยิงรัว 15 นัด อ้างเมียถูกหยาม จ.ลพบุรี

View icon 230
วันที่ 21 มี.ค. 2566 | 06.06 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจลพบุรี ตามจับกุมตัวอดีตทหารหน่วยรบพิเศษยิงรัว 15 นัด สังหารโหดหนุ่มใหญ่วัย 52 ปี ตายในรถกลางถนน สารภาพแค้นแทนเมียที่ถูกเหยียดหยามไม่ไหว

นี่เป็นคลิปเหตุการณ์ที่แม่ค้าหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งบริเวณถนนสาย เอราวัณ-เขาหนีบ หมู่ที่ 8 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี เมื่อค่ำวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา บอกว่า สงสัยทะเลาะกับเมีย หมดแม็กเลยว่ะ

แต่สุดท้ายแล้ว เหตุการณ์นี้ไม่ได้ทะเลาะกับเมีย แต่เป็นเหตุการณ์รัวกระหน่ำยิงหนุ่มใหญ่วัย 52 ปี ชื่อ นายอัครเดช หรือ เอก ศรีสะอาด ชาวตำบลกกโก อำเภอเมืองลพบุรี เสียชีวิตคารถส่งของ ถูกรัวยิงถึง 15 นัด ถูกร่าง 14 แผล ปลอกกระสุนเกลื่อนพื้น ไม่รู้มือปืนไปแค้นอะไรมาจากไหน

ตำรวจตั้งประเด็นมากมาย และชี้ว่า นี่น่าจะเป็นมือปืนระดับพระกาฬเป็นผู้ลงมือ เนื่องจากมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี รวมถึงอาวุธปืนที่ใช้ก็มีคุณภาพสูง

ล่าสุดเมื่อวานนี้ เวลา 11.00 น. สามารถจับกุมตัวมือปืนรายนี้ได้แล้ว โดยตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบจากพยาน หลักฐานจากกล้องวงจรปิด และนิติวิทยาศาสตร์ จนสามารถขอศาลอนุมัติหมายจับ นายประยุทธ ชัยอินทร์ อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน โดยสามารถควบคุมตัวได้ที่บ้านภรรยาหมู่บ้านลลิษา ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี

ช่วงบ่ายตำรวจได้นำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ศูน์ปฎิบัติการบริหารเหตุการณ์ร้ายแรง ของตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี โดย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้สอบสวนปากคำด้วยตนเอง ก่อนทราบว่า นายประยุทธ์ เป็นอดีตทหารสังกัดหน่วยรบพิเศษหน่วยหนึ่งในจังหวัดลพบุรี จึงสามารถก่อเหตุอย่างอุกอาจและแม่นยำ หลังจากนั้นได้นำตัว นายประยุทธ ไปนำอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุซุกซ่อนไว้ในค่ายทหาร และรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุที่ซุกซ่อนไว้ที่บ้านภรรยา

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าเป็นผู้ลงมือกระหน่ำยิงผู้ตายด้วยตนเองผู้เดียว ซึ่งสาเหตุเกิดมาจากความแค้นสะสม ที่ผู้ตายมักแสดงท่าเหยียดหยาม

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ภรรยาตนเองได้ขับรถเฉี่ยวชนกับภรรยาของผู้ตายได้รับความเสียหาย ซึ่งรถที่ภรรยาขับไปขาดประกัน ซึ่งอยู่ในระหว่างเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย และต่อรองราคา ซึ่งมักถากถางเหยียดหยามมาตลอด เพราะเป็นฝ่ากถูกผู้ตายทวงถามเรื่องเงิน จนเกิดเป็นความแค้นสะสม วันเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถผ่านหน้าบ้านลักษณะเยาะเย้ย จึงได้ขับรถติดตามมาก่อเหตุ หลังจากนั้นนำปืนไปซ่อนในค่ายทหาร และหลบหนีไปอยู่บ้านภรรยา จนตำรวจมาจับกุมตัวดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้สอบสวนปากคำเพิ่มเติม เนื่องจาก นายประยุทธ ยังให้การวกวน และยังรับสารภาพไม่หมด ก่อนนำตัวฝากขัง 48 ชั่วโมง หลังจากนั้น นายประยุทธ์ จะถูกนำตัวไปสอบสวนที่ศาลทหารตามกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง