หอการค้าไทย ระบุภาคธุรกิจกังวลสุญญากาศการบริหารประเทศช่วงรอยต่อรัฐบาลเก่า-ใหม่ ห่วงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ คาดเลือกตั้งครั้งนี้เงินสะพัดกว่า 1.2 แสนล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจความเห็นภาคธุรกิจต่อผลกระทบจากเศรษฐกิจ พบว่า เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือปัญหาเงินเฟ้อ เนื่องจากต้นทุนค่าไฟแพง ค่าแรงขึ้นและดอกเบี้ยสูงขึ้น ส่งผลกระทบยอดขาย กำไร และสภาพคล่องของธุรกิจ
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังกังวลกับเรื่องการเมืองและการเลือกตั้ง ซึ่งมีช่วงรอยต่อรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลชุดใหม่ อาจทำให้เกิดสุญญากาศในการบริหารงาน นโยบายต่าง ๆ การแก้ปัญหาปากท้องประชาชน และยังกังวลถึงความขัดแย้งในการจัดตั้งรัฐบาล ที่อาจจะมีผลต่อเสถียรภาพทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ยังได้รับอานิสงค์จาก การเลือกตั้งที่ กกต.กำหนดให้ วันที่ 14 พ.ค.2566 เป็นวันเลือกตั้ง โดยเชื่อว่าทุกพรรคการเมือง ต้องรณรงค์หาเสียงมากขึ้น คาดช่วงเลือกตั้งจะมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อน 40,000-50,000 ล้านบาท มีเม็ดเงินสะพัดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 1.0-1.2 แสนล้านบาท ทำให้ จีดีพี.ขยายตัวเพิ่ม 0.5-0.7% ส่งผลทำให้จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวได้ 3-4% จะช่วยค้ำยันเศรษฐกิจไตรมาส 2 ได้ระดับหนึ่ง โดยปี 2566 คงคาดการณ์จีดีพีไว้ที่ 3-4%
เกาะติดทุกความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 2566 ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook : www.facebook.com/Ch7HDNews
Twitter : www.twitter.com/Ch7HD
IG : www.instagram.com/ch7hd_news
TikTok : www.tiktok.com/@ch7hd_news
Youtube : www.bit.ly/youtubech7hd