ผู้นำจีน และรัสเซีย ลงนามแถลงการณ์สนับสนุนให้มีการเจรจาเพื่อสันติภาพในยูเครน แต่สหรัฐฯ ชี้ว่า แผนดังกล่าวยังไม่นำไปสู่การยุติสงครามในยูเครนได้อย่างแท้จริง ประธานาธิบดี "สี จิ้น ผิง" ของจีน ซึ่งอยู่ในระหว่างเยือนกรุงมอสโก ของรัสเซีย อย่างเป็นทางการ เป็นวันที่ 2 เมื่อวานนี้ โดยได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคี และประเด็นสำคัญระดับภูมิภาค หลังการหารือกับประธานาธิบดี "วลาดิมีร์ ปูติน" ที่พระราชวังเครมลิน แบบตัวต่อตัว และคณะผู้แทน ซึ่งในประเด็นของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่า มีความจำเป็นในการจัดการปัญหาสงครามผ่านการเจรจา โดยผู้นำรัสเซียสนับสนุนข้อเสนอแผนสันติภาพ 12 ข้อของผู้นำจีน ซึ่งเน้นย้ำว่า จีนมีจุดยืนที่เป็นกลาง และปฏิบัติตามวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติมาโดยตลอด
ขณะที่ นาย "จอห์น เคอร์บี" โฆษกความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ได้กล่าวในการแถลงสรุปประจำวันของทำเนียบขาว ว่าแผนของจีน ซึ่งเรียกร้องให้มีการหยุดยิงและการเจรจาในยูเครน แต่ไม่มีบทบัญญัติให้รัสเซียกถอนทหารออกจากยูเครน เป็นการซื้อเวลาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้รัสเซียจัดกลุ่มกองกำลังใหม่ขึ้นมา และไม่อาจนำไปสู่การยุติสงครามได้
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีข้อตกลงร่วมกัน เพื่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การเกษตร รวมทั้งพลังงานและทรัพยากร โดยรัสเซียมีแผนที่จะสร้างโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ "พาวเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย 2" (The Power of Siberia 2) จากไซบีเรียของรัสเซีย ไปในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งสามารถส่งก๊าซปริมาณ 50,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีให้แก่จีน
