ถกไม่เถียง : แม่ผัวสะอื้น สะใภ้แสบ สลับทองแท้ทองปลอม ขโมยกดเงินแสน ลักผ้าไหมหมดตู้

View icon 70
วันที่ 22 มี.ค. 2566 | 17.09 น.
ถกไม่เถียง
แชร์
ถกไม่เถียง - แม่ช็อก! ว่าที่ลูกสะใภ้แสบ แอบย่องนำสร้อยคอทองคำแท้ 3 เส้น ออกไป แล้วนำทองปลอมมาวางไว้แทนที่ เท่านั้นยังไม่พอ ถูกหอบผ้าไหมไปหมดตู้

นางนันทิยา อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ออกมาร้องสื่อมวลชนว่า เมื่อปี 2565 ลูกชายของตนเองได้ไปมีแฟนสาว อายุ 33 ปี ที่รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก พอย้ายเข้ามาอยู่บ้านได้ประมาณ 7 เดือน บัตรเอทีเอ็มของตนเองที่เก็บไว้ภายในตู้เสื้อผ้าห้องนอนเกิดหายไป โดยในบัญชีมีเงินจำนวนหลายแสนบาท หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองจอก จากนั้นทางตำรวจก็ได้ติดตามว่าที่ลูกสะใภ้ เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยเข้ามาสอบปากคำ ปรากฏว่า ว่าที่ลูกสะใภ้ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น

นอกจากบัตรเอทีเอ็มที่หายไปแล้ว ผู้เสียหายยังบอกอีกว่า สร้อยคอทองคำที่ซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าตู้เสื้อผ้า หนัก 1 บาท 2 เส้น และหนัก 50 สตางค์ อีก 1 เส้น ถูกขโมยไปทั้งหมด เนื่องจากวันที่ตนเองต้องการนำสร้อยคอทองคำไปขาย เพื่อนำไปใช้หนี้ธนาคาร ปรากฏว่า ทางร้านทองแจ้งว่าเป็นของปลอม ตอนนั้นล้มทั้งยืน เพราะไม่เคยพบความผิดปกติมาก่อน เนื่องจากสร้อยคอทองคำที่เห็นมาตลอด ถูกแทนที่ด้วยของปลอม

และยังไม่พอแค่นั้น ก่อนที่ ว่าที่ลูกสะใภ้จะออกไปจากบ้าน ได้หอบเอาผ้าไหมที่ตนเองเก็บสะสมเอาไว้ใส่ไปงานจำนวนหลายผืนไปด้วย พร้อมยืนยันว่า ไม่มีใครนอกจากว่าที่ลูกสะใภ้ เพราะก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง ลูกสะใภ้เคยเอากุญแจตู้เสื้อผ้าไป ก่อนที่เวลาต่อมา กุญแจหายไป 1 ดอก ทำให้ตอนนี้ตนเองเหนื่อยล้ากับปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว

ส่วนด้านคดีความ พนักงานสอบสวนเวร สภ.หนองจอก เจ้าของคดี บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เข้าไปขอความร่วมมือกับธนาคารในพื้นที่แล้ว ทราบว่าคนร้ายที่นำบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปไปกดเงินนั้น เป็น "ว่าที่ลูกสะใภ้" นั้นเอง เบื้องต้น ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา หากยังไม่เข้ามาพบจะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และถ้ายังไม่มาอีก ก็ออกหมายจับแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง