เลือกตั้ง 2566 : คืนรัง สมศักดิ์-สุริยะ สวมเสื้อเพื่อไทย ฟันธงตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

View icon 39
วันที่ 24 มี.ค. 2566 | 06.24 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ในที่สุดก็เปิดตัวเป็นทางการ สำหรับ "สุริยะ-สมศักดิ์" ที่ลา "พลังประชารัฐ" กลับมาสวมเสื้อ "เพื่อไทย" เมื่อวานนี้มีแถลงเปิดใจเหตุผลตีจาก เพราะถูกสภาพการเมืองบีบคั้นต้องย้ายฝั่ง แต่ตอนนี้ "ฟ้าเปิดแล้ว" พร้อมตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

ฝั่งแลนด์สไลด์เวลานี้คึกคักเต็มที่ ปลายทางคือ 310 ที่นั่ง เป้าหมายชัดเจน จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวให้สำเร็จ ดังนั้น ใครที่เคยย้ายออกไป ใครที่เคยไปอยู่กับฝั่งรัฐบาล ถ้าจะกลับมาทางนี้พร้อมเปิดประตูรับเสมอ โดยเฉพาะ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากกลุ่มสามมิตร หลังลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวานนี้มาแถลงข่าวเปิดตัวร่วมกับพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

โดย คุณสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มีความสุขและมีความหวังอย่างมาก ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่เปิดโอกาสให้มาเป็นสมาชิก เพื่อให้ตนมาช่วยเติมเต็มให้เป้าหมายแลนด์สไลด์สำเร็จ พร้อมยืนยันว่า หลังจากการย้ายมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยครั้งนี้แล้ว ในอนาคตจะไม่เปลี่ยนขั้วทางการเมืองอีกแล้วแน่นอน

ส่วนสื่อเมื่อถามว่า ตอนนี้ฟ้าเปิด พร้อมให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ คุณสมศักดิ์ ถามกลับว่า "พรรคเดียวใช่ไหมครับ ผมก็คิดว่าเป็นอย่างนั้น พรรคเดียว"

ขณะที่ คุณสุริยะ กล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมา โครงสร้างเศรษฐกิจของไทยพังทลายลง โดยเฉพาะ 4 ปีแรกหลังรัฐประหาร ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสอย่างมาก ขณะที่ พรรคพลังประชารัฐ ได้ สส. จำนวนไม่มากพอ ต้องกระจายกระทรวงเศรษฐกิจไปตามพรรคต่าง ๆ ทำให้ขาดพลัง การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจึงไม่สำเร็จ ส่วนการจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ จะต้องมีพรรคแกนนำที่ได้รับการเลือกตั้งมาอย่างถล่มทลาย ตนและ นายสมศักดิ์ จึงได้ตัดสินใจย้ายเข้ามายังพรรค เพื่อเป็นส่วนช่วยให้เกิดการแลนด์สไลด์ และนำเอานโยบาย "คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน" ไปสู่การปฏิบัติ เพราะเศรษฐกิจที่พังไปแล้ว ต้องคิดใหญ่เท่านั้นจึงจะแก้ได้

เกาะติดทุกความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย ได้ที่ www.ch7.com/election2566

ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook : www.facebook.com/Ch7HDNews
Twitter : www.twitter.com/Ch7HD
IG : www.instagram.com/ch7hd_news
TikTok : www.tiktok.com/@ch7hd_news
Youtube : www.bit.ly/youtubech7hd