พ่อ-แม่สุดเศร้า! ส่งลูกสาววัย 4 เดือน ฝากสถานรับเลี้ยงแค่ 2 ชั่วโมง พี่เลี้ยงโทรศัพท์มาบอกว่า ลูกตัวเขียวและไม่รู้สึกตัว นำส่งโรงพยาบาลไม่ทันเสียชีวิต
วันนี้ (24 มี.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวกาน (นามสมมุติ) และนายพล (นามสมมุติ) เป็นพ่อแม่ของ เด็กหญิงปิ่น (นามสมมุติ) อายุ 4 เดือน ได้ติดต่อลูกไปฝากเลี้ยงไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งในตัวอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาลูกของตนเองได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า ทางมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ได้นำร่างของน้องปิ่นที่เพิ่งผ่าชันสูตรจากโรงพยาบาลนิติเวช มาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัด โดยมีพ่อแม่รอรับร่างด้วยความโศกเศร้า
ทางนางสาวกาน เล่าว่า ตนเองมองหาคนเลี้ยงลูก และมีเพื่อนร่วมงานแนะนำผ่านพี่สาวตนมาว่า ที่นี่เลี้ยงดี พี่สาวตนจึงได้ติดต่อไป และตนก็ได้พูดคุยกับคนที่รับเลี้ยงเด็ก พอตกเย็นตนจึงได้ไปดูสถานที่ ซึ่งสถานที่ตรงนี้ก็รับเลี้ยงตั้งแต่เด็กแรกเกิด ดูแลเด็กตลอดเวลา ซึ่งเลี้ยงได้ประมาณ 5-6 คน จากนั้นตนก็ได้ตกลงค่าจ้างเรียบร้อยเป็นวันละ 150 บาท พอ 07.00 น. ของวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ตนก็ได้เอาลูกไปส่งให้กับสถานที่รับเลี้ยงเด็กตามปกติ ซึ่งตอนนั้นลูกของตนมีน้ำมูกใส ยิ้มแย้มแจ่มใสร่าเริงเป็นปกติ จากนั้น 2 ชั่วโมงต่อมา ประมาณ 09.30 น. คนที่รับเลี้ยงโทรศัพท์มาว่า ทำไมไม่บอกว่าน้องปิ่นไม่สบาย ซึ่งตอนนี้น้องอยู่โรงพยาบาลแล้วเขาก็ร้องไห้
ต่อมาตนก็ได้รีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อรีบไปดูลูก ที่ห้องฉุกเฉินหมอก็ได้เดินออกมาจับที่มือของตน สภาพน้องตอนนั้นไม่มีสติปากเขียว เนื่องจากขาดออกซิเจนไปแล้ว ซึ่งตอนที่คนรับเลี้ยงเด็กเอาลูกตนเองไปส่งที่โรงพยาบาลตอนนั้นน้องก็ไม่มีสติแล้ว
จากนั้นหมอก็ได้เรียกตนเองไปคุยว่า พี่เลี้ยงเด็กคนนี้บอกกับหมอว่า หลังจากที่ให้นมเสร็จแล้วก็จับนอนคว่ำ เพื่อที่จะเอาน้องนอน ซึ่งเด็กอายุเพียง 4 เดือน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งยังพลิกซ้ายพลิกขวายังไม่เก่งเลย และตนก็ไม่เคยให้ลูกนอนคว่ำเลย ซึ่งหลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ได้บอกว่า มาเจออีกทีตอนน้องหน้าเขียวแล้ว ไม่รู้สึกตัวแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลบอกว่าถ้าหากเด็กฟื้นขึ้นมาได้ก็จะไม่เหมือนเดิมก็อาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา ตนก็แค่อยากจะให้พี่เลี้ยงคนนี้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ถึงพี่จะไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ให้มาดูลูกของตนบ้าง ซึ่งก่อนที่น้องจะเสียชีวิต ตนเองมีความรู้สึกวูบวาบ จากนั้นพูดกับน้องว่า เดี๋ยวแม่ไปใส่บาตรให้ ตอนนั้นหัวใจน้องยังเต้นอยู่ที่ 15 พอตนจับตัวน้องหัวใจก็หยุดเต้นทันที
ต่อมาทางพ่อแม่ของน้องปิ่นได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอท่าม่วง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงคนนี้แล้ว โดยตำรวจได้เชิญตัวนางสาวเอ (นามสมมุติ) พี่เลี้ยงเด็ก เข้ามาสอบปากคำที่โรงพัก
ด้านนางสาวเอเปิดเผยว่า ได้รับเลี้ยงน้องปิ่นเวลาประมาณ 07.30 น. หลังจากนั้นก็เอาเด็กมาอาบน้ำ ป้อนนม แล้วก็พาเข้านอน ระหว่างนั้นเด็กได้สำลักนม 1 ครั้ง ซึ่งตนเองก็คิดว่าไม่เป็นอะไร และยังอุ้มเล่นอยู่บริเวณห้องโถง จนเด็กเริ่มง่วง จึงได้รีบนำเด็กเข้านอน พอแน่ใจว่า เด็กหลับ ตนเองจึงออกมากินข้าว ต่อมาน้องมีอาการแน่นิ่ง ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าน้องหยุดหายใจหรือยังหายใจอยู่ จึงได้นำน้องมาที่ห้องโถงและทำการปั๊มหัวใจ 3 ครั้ง โดยมีน้ำมูกทะลักออกมาทั้ง 3 ครั้ง หลังจากนั้นจึงได้รีบนำเด็กไปส่งที่โรงพยาบาล ตนทำอาชีพเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากว่า 10 ปี เลี้ยงเด็กมาแล้วกว่า 100 คน ไม่เคยมีเหตุอะไรแบบนี้ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กเสียชีวิต
ทั้งนี้ ส่วนคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย และหลังจากนี้คงเลิกเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เพราะรู้สึกแย่มากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากขอโทษครอบครัวของเด็ก ซึ่งตนก็ไม่ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ตนพยายามช่วยชีวิตสุดความสามารถแล้ว
