เลือกตั้ง 2566 : "ศรัณย์วุฒิ" เชิดชู "บิ๊กตู่" นักต่อสู้กับประชาธิปไตยจอมปลอม

วันนี้ (24 มี.ค.66) นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต สส.อุตรดิตถ์ เปิดเผยภายหลังสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเหตุผลสำคัญที่ย้ายพรรค คือ มีอุดมการณ์ตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรคกรมไทยสร้างชาติ คือ เน้นทำเพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน อีกเหตุผล คือ พล.อ.ประยุทธ์ ต่อสู้กับประชาธิปไตยปล้นชาติ ประชาธิปไตยจอมปลอม ผสมพันธุ์กันจนหมดแล้ว เมื่อไม่มีขั้วประชาธิปไตย ไม่มีขั้วที่เรียกว่าเผด็จการ หรือ บางคนจะเรียกว่าอนุรักษ์นิยมก็แล้วแต่ สุดท้ายตนเองไม่สนใจขั้วไหน สนใจอยู่ขั้วประชาชน ซึ่งบังเอิญมีพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่อยู่ในภาพของความเป็นอนุรักษ์นิยม แต่ชัดเจนที่สุด คือ เป็นภาพแห่งความจงรักภักดีทำงานต่อสู้เพื่อประชาชน 8 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ สร้างรากฐานมา ตนเองจึงอยากให้ต่อยอดอีก 2 ปี ประเทศไทยจะประสบความสำเร็จสูงมาก



นายศรัณย์วุฒิ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีเอกลักษณ์คล้ายกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่มีความซื่อสัตย์ มีความจงรักภักดี โอกาสจะเป็นรัฐบุรุษก็เป็นได้ และเวลาที่เหลือ 2 ปี พล.อ. ประยุทธ์ ทำอะไรได้อีกมาก สุดท้ายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานครบ 2 ปี ผลงานและความดีที่ปรากฏขึ้นประชาชนจะแซ่ซ้อง

นายศรัณย์วุฒิ กล่าวด้วยว่า การมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติครั้งนี้ มีคนโจมตีว่าจะได้กินกล้วย ขอพูดไว้ตรงนี้ ตนเองไม่ได้อะไรสักอย่าง ย้ำทำเพื่อประเทศชาติ



ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่นายศรัณย์วุฒิ ย้ายเข้ามาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ และเข้าขอขมาที่เคยกล่าวล่วงเกิน ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมในสภาผู้แทนราษฎร ว่าตนเองเป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว เข้าใจดีว่าเป็นบทบาทในสภาฯ ในฐานะฝ่ายค้าน ก็พยายามค้านให้มากที่สุด อาจจะเกินไปบ้างก็ให้อภัยได้ ส่วนที่เขาตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคไม่มีใครบังคับ แต่เพราะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนที่เชื่อถือได้ ตรวจสอบแล้วตามข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง จึงต้องการเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปข้างหน้าได้