มวยถูกคู่! ทนายตั้ม เปิดศึกยก 2 ซัด ชูวิทย์ เข้าข่ายฟอกเงิน

View icon 85
วันที่ 24 มี.ค. 2566 | 16.35 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ศึกมวยนอกเวทียังไม่จบ ล่าสุด ทนายตั้ม เปิดภาพแฉอีก อ้าง ชูวิทย์ รับเงินจากคนของ สารวัตรซัว พร้อมจี้เปิดชื่อ 2 นายพล ด้าน ชูวิทย์ มอบหมาย ทนายเปี๊ยก ดำเนินคดีทนายตั้ม พร้อมเย้ยคนละรุ่นกัน

ถือเป็นมวยถูกคู่ ที่คนในสังคมให้ความสนใจ ภายหลัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เปิดโปงพฤติกรรมแฉไปไถไปของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่มีการรับเงินจากกลุ่มธุรกิจพนันออนไลน์ เป็นเงินสดหลาย 10 ล้านบาท และรับเงินดิจิทัลอีกกว่า 50 ล้านบาท โดยนำเงินบางส่วนไปบริจาคโรงพยาบาล ขณะที่ นายชูวิทย์ ยอมรับว่ามีการรับเงินกลุ่มธุรกิจสีเทาจริง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทนายชื่อดังรับงานใครมา

ล่าสุด เช้าวันนี้ ทนายตั้ม ได้เปิดศึกยก 2 หลังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เป็นภาพที่อ้างว่าเป็นคนของสารวัตรซัว ที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ นำเงินไปให้ นายชูวิทย์ เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ส่วนบนโต๊ะวันนั้นยังมีตำรวจระดับนายพล อีก 2 คนอยู่ด้วย คนแรกเกษียณแล้ว เป็นคนสนิทของนายชูวิทย์ ส่วนอีกคนมีตำแหน่งสำคัญเกี่ยวกับการปราบปรามพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นคนสำคัญ

ช่วงท้าย ทนายตั้ม ระบุให้ นายชูวิทย์ ออกมาเปิดชื่อบุคคลดังกล่าวเพื่อประเทศชาติ แต่ถ้าไม่กล้าแฉ เพราะรับงานอะไรมา ช่วงอาทิตย์หน้าจะทำหน้าที่แฉแทนเอง ส่วนเงินโจรที่รับมา ถึงแม้เอาไปบริจาค จะหักค่าคอมมิชชันหรือไม่หัก ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เข้าข่ายฟอกเงิน โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ต่อกรรมต่างกรรมต่างวาระ ฉะนั้นรับไปกี่รอบ อยากให้ลองคูณเอาเอง

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ นายชูวิทย์ โดยช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ซอยเฉยพ่วง ตรงข้ามสวนจตุจักร เพื่อทำกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี บางช่วง นายชูวิทย์ บอกว่า ตอนนี้กำลังมีขบวนการทำลายตนเองและลูก ๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงโพสต์ของทนายตั้ม ที่มีการเปิดภาพรับเงินสารวัตรซัว ทาง นายชูวิทย์ บอกว่า ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้ เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เนื่องจากตนเองและทนายตั้ม มันคนละรุ่นกัน

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ บอกว่า เมื่อโรงพยาบาลคืนเงินบริจาคมาแล้ว จะนำไปมอบให้ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยส่วนตัวมองว่าไม่ใช่การฟอกเงิน แต่แค่เอาเงินให้โรงพยาบาลเท่านั้น เบื้องต้นมอบหมายให้ทนายเปี๊ยก นายอนันต์ชัย ไชยเดช ดำเนินคดีทนายตั้ม ขณะทีทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม ทนายเปี๊ยก ยืนยันว่าได้เป็นทนายความให้นายชูวิทย์ เพื่อดำเนินคดีกับทนายตั้มจริง

ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้แจงว่า นายชูวิทย์ ได้บริจาคเงิน 3 ล้านบาท ให้โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อทราบว่าเงินที่ได้มามีข้อสงสัยว่าอาจเป็นเงินธุรกิจผิดกฎหมาย จึงติดต่อขอคืนเงินบริจาคให้แก่นายชูวิทย์แล้ว

พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า กรณี นายชูวิทย์ ยอมรับว่าคนของสารวัตรซัว นำเงินมาให้นั้น ต้องพิจารณาก่อนว่า พนักงานสอบสวนมีอำนาจในการตรวจสอบหรือไม่ และเงินที่ นายชูวิทย์ ได้มา เป็นเงินจากอะไร หากเป็นเงินกระทำผิดกฎหมาย จะต้องถูกดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ส่วนประเด็นโอนสกุลเงินดิจิทัล 50 ล้านบาท ให้บุตรของนายชูวิทย์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามาจากบุคคลใด และเป็นเงินที่มาจากการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง