ขยายประเด็นดัง : ซีเซียม-137 หายไปเกิน 1 เดือน ยังเป็นปริศนา

View icon 58
วันที่ 25 มี.ค. 2566 | 12.10 น.
ข่าวเด็ด 7 สี
แชร์
ข่าวเด็ด 7 สี - ขยายประเด็นดังวันนี้ ไปประมวลความเคลื่อนไหวตลอดสัปดาห์กับการจัดการปัญหาสารซีเซียม-137 ที่หายออกไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำที่จังหวัดปราจีนบุรี แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน สิ่งที่ชัดเจนอย่างเดียวคือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านติดตามเรื่องนี้กับคุณปราโมทย์ คำมา

เป็นเรื่องที่ยังไม่มีคำตอบว่าสุดท้ายแล้วมันหายไปไหน ซีเซียม-137 มีอะไรผิดพลาดตรงไหนกับเจ้าซีเซียม-137 สารเคมีอันตรายที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในจังหวัดปราจีนบุรี และจนถึงตอนนี้หน่วยงานหลักอย่างสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ก็ยังให้คำตอบไม่ได้ว่าสารซีเซียม ที่พบมีการปนเปื้อนในโรงงานแห่งหนึ่ง เป็นชนิดเดียวกับที่หายไปจากโรงงานต้นเรื่องหรือไม่ เรื่องนี้มีหลายมุมที่เราต้องมาขยายกัน

ก่อนอื่นพาคุณผู้ชมมาย้อนดูไทม์ไลน์กันอีกครั้งหนึ่ง ซีเซียม-137 หายออกจากโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำ ไปเกิน 1 เดือนแล้ว โดยหายไปตั้งแต่วันที่ 17 กุมพาพันธ์ กว่าจะมาแจ้งตำรวจก็ปาไปวันที่ 10 มีนาคม และหลังจากนั้นก็ตามล่าหาซีเซียมกันเต็มสูบ จนไปพบว่าปนเปื้อนอยู่ในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นซีเซียมที่หายไปหรือไม่ เพราะสารที่พบนั้นถูกหลอมละลาย กลายเป็นฝุ่นแดงไปแล้ว และยังถูกส่งต่อไปยังจังหวัดระยองด้วย

สธ.ตั้งศูนย์ดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันติดตามอาการ 5 ปี
นั่นก็เลยทำให้ประชาชนในพื้นที่ค่อนข้างแตกตื่น แม้ว่ายังไม่พบรายงานผลกระทบด้านสุขภาพที่ชัดเจน แต่เมื่อช่วงกลางสัปดาห์สาธารณสุขได้มีการนำพนักงานภายในโรงงานที่พบสารปนเปื้อน ไปตรวจสุขภาพยังไม่พบความผิดปกติ ซึ่งยังต้องรอผลการตรวจอย่างละเอียดจากปัสสาวะและผลตรวจเลือดอีกประมาณ 2 สัปดาห์ และเพื่อความเชื่อมั่นและความมั่นใจของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขก็มีการตั้งศูนย์ดูแล เพื่อติดตามอาการของประชาชนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสารซีเซียม โดยเฉพาะคนงานที่อยู่ภายในโรงงาน และชาวบ้านรอบ ๆ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่าต้องติดตามอาการอย่างน้อย 5 ปี

ชาวบ้านรอบโรงงาน ปักธงขาวขอให้ช่วยดูแลถึงที่สุด
แม้ว่ากระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะดูแลอย่างดี ตามดูอาการอย่างน้อย 5 ปี แต่คนที่อยู่ในพื้นที่ก็ยังมีความกังวล ไม่ใช่แค่สุขภาพของพวกเขาเท่านั้น แต่ห่วงใยไปถึงลูกหลาน ถึงขั้นปักธงขาว เพื่อแสดงให้เห็นว่าต้องการความช่วยเหลือ เรียกร้องให้ กระทรวงสาธารณสุข มาตรวจเลือดทุก ๆ 6 เดือน เป็นเวลา 5 ปี และถ้าหากพบว่า ซีเซียม-137 มีผลกับสุขภาพ จะต้องได้รับการรักษาฟรี

นักเรียนป่วยพร้อมกัน 30 คน ยังไม่ทราบสาเหตุ
และความกังวลของชาวบ้านก็เกิดขึ้นจริงครับ เมื่อจู่ ๆ เด็กนักเรียนภายในโรงเรียน โรงเรียนบ้านโคกกระท้อน อยู่ใกล้กับโรงงานหลอมเหล็ก ที่พบสารซีเซียม-137 เด็ก ๆ มีอาการเป็นไข้ เจ็บคอ และไอ ประมาณ 30 คน แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร แต่เป็นเรื่องที่สาธารณสุขต้องรีบหาคำตอบ เพื่อตอบคำถามชาวบ้านให้ได้ เพราะนั่นคือชีวิตลูกหลานของพวกเขา

เกษตรกรได้รับผลกระทบ ซีเซียม-137 ขายผลผลิตไม่ได้
เกษตรกร ปราจีนฯ เครียดหนัก ผลผลิตขายไม่ออกจากความกังวลเรื่องสุขภาพ มาดูต่อถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจ เกิดปัญหานี้ขึ้นเกษตรกรก็กุมขมับกันเลย เพราะผลผลิตด้านการเกษตร พลอยฟ้า พลอยฝน ได้รับผลกระทบขายไม่ออกไปด้วย 

ผมมีโอกาสได้คุยกับเกษตรอินทรีย์จังหวัดจีนบุรี เขาบอกว่า ในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาลูกค้างดรับซื้อสินค้าทางการเกษตรทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ติดขัดอยู่ช่วงหนึ่ง จากความกังวลต่อสุขภาพ ทำเอาเกษตรกรกุมขมับกันเลยทีเดียว และจนถึงตอนนี้ปัญหาต่าง ๆ ก็ยังไม่คลี่คลาย ลูกค้ายังยกเลิกออเดอร์ สถาบันการศึกษาที่จองคิวไปศึกษาดูงานเกษตรก็ยกเลิกออกไปไม่มีกำหนด เมื่อช่วงปลายสัปดาห์กลุ่มเกษตรกรจึงมีการไปยื่นหนังสือกันที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้มีการแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ไปฟังเสียงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นครับ

เรียกคืนฝุ่นแดงจากระยอง หลายหน่วยเร่งกู้สถานการณ์
คราวนี้เรากลับมาดูความคืบหน้าในการทำงานของเจ้าหน้าที่กันบ้าง เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีการเรียกคืนฝุ่นแดงที่ถูกส่งไปยังจังหวัดระยอง กลับมาเก็บไว้ที่โรงงานต้นทาง เพื่อความสบายใจของชาวระยอง มีจำนวน 16 ถุง น้ำหนัก 16 ตัน เมื่อเดินทางมาถึงสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ก็ตรวจวัดค่ารังสี พบมีปริมาณ 0.006 มิลลิซีเวิร์ต และไม่พบวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 แต่อย่างใด โดยจากการตรวจสอบทางการแพทย์ก็ยังไม่พบว่ามีผู้ป่วยจากการได้รับสารรังสี

ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี ขอเวลา 1 เดือน เคลียร์ ซีเซียม-137
ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัด ยอมรับว่าฝุ่นเหล็กที่มีอยู่ 24 ตัน ในโรงหลอมก็ยังอยู่ที่เดิม ฝุ่นที่ติดค้างอยู่ในเตาหลอมก็ยังติดอยู่ที่เดิม ขอเวลาให้ประเมินสถานการณ์ประมาณ 1 เดือนก่อน ว่าจะมีการจัดเก็บอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด ขออย่าให้ประชาชนวิตกมากเกินไป โดยเฉพาะแรงกระทบด้านการเกษตรตอนนี้ก็กำลังพยายามสื่อสารให้คนภายนอกเข้าใจ เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 

ทั้งหมดนี้ก็คือความเคลื่อนไหว และสิ่งที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับสาร ซีเซียม-137 ที่หายไปเกินหนึ่งเดือนแล้ว แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครที่สามารถระบุได้ว่ามันหายไปไหน ที่ตรวจพบปนเปื้อนในโรงงานนั้นใช่ที่หายไปหรือไม่ ความกังวลจึงตกอยู่ที่ชาวบ้าน และเกิดคำถามกลับไปยังหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมอย่างสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มีมาตรฐานความปลอดภัยที่เป็นสากลหรือไม่ เพราะแม้ว่าซีเซียมจะมีประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์ ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ แต่การเติบโตก็ต้องควบคู่ไปกับสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง