ปปง.ตรวจสอบปมเงินบริจาค ชูวิทย์ เข้าข่ายคดีฟอกเงินหรือไม่

View icon 11
วันที่ 26 มี.ค. 2566 | 05.13 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ปมเงินบริจาคของ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่มาจากเงินพนันออนไลน์ ก็ยังต้องจับตาต่อกับคดีการร่วมฟอกเงิน ซึ่ง ปปง. ก็ชี้แจงว่า ต้องดูเจตนาเป็นหลัก ขณะที่ ทนายตั้ม ทัวร์ยังลงต่อ หลังโพสต์แช่งบุคคลที่รับเงินผิดกฎหมายให้ถูกยึดทรัพย์หมดตัวทั้งตระกูล

หลังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. เข้าตรวจสอบกรณีเงินบริจาคจำนวน 6 ล้านบาท ที่ คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ รับมาจากแก๊งเว็บพนันออนไลน์ และมอบต่อให้โรงพยาบาล

ซึ่งเบื้องต้น ปปง. อยู่ระหว่างตรวจสอบธุรกรรม หรือทรัพย์สินของกลุ่มผู้กระทำความผิดมูลฐาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ หากพบหลักฐานเชื่อได้ว่า เงินบริจาคดังกล่าว เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐาน ก็จะพิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ก็เสนอคณะกรรมการธุรกรรม เพื่อพิจารณายึดอายัดทรัพย์สินดังกล่าว

ส่วนคดีการฟอกเงินทั้งในส่วนของเจ้าของเงิน และ คุณชูวิทย์ อยู่ระหว่างรอผลสรุปสำนวนจากตำรวจ ส่งกลับมายัง ปปง. เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาก่อนร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุดต่อไป

ษิทรา ทัวร์ลงหลังโพสต์แช่งคนรับเงินผิดกฎหมาย
ด้าน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เมื่อวาน (25 มี.ค.) ก็ยังถูกกระแสทัวร์ลงอีกรอบ หลังโพสต์รูปเข้าวัดทำบุญ ในจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมข้อความ ใจความสำคัญ คือ การสาปแช่ง ใครที่เคยรับเงินผิดกฎหมายให้รับผลกรรมโดนยึดทรัพย์หมดตัวทั้งตระกูล ทำให้ชาวโซเชียลโพสต์ติติงต่อการกระทำ จน ทนายตั้ม ต้องคอมเมนต์กลับว่า "ปรึกษาน้อง ขอวิธีรับมือคณะทัวร์หน่อยครับ"

ซึ่ง ทนายตั้ม ได้เปิดเผยกับสื่อว่า ได้เดินทางไปทำบุญกับครอบครัวไปที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร และคนที่อ้างว่าเป็นโจรกลับใจ ส่วนในเรื่องคดีที่ถูกฟ้องร้องนั้น ทนายตั้ม กล่าวว่า ไม่กลัวเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ แค่อยากให้สังคมตาสว่าง

นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า ไม่เคยโกรธแค้นส่วนตัวอะไรกับ นายชูวิทย์ แต่รู้ว่า นายชูวิทย์ โกหกบางเรื่อง จึงต้องออกมาพูด ยืนยันว่าตนเองไม่เคยรับผลประโยชน์ หรือรับงานใครมาแฉอย่างแน่นอน

ชูวิทย์ โพสต์กลับหลังพิงวัด ทำอะไรไม่ได้ก็คิดแต่สาปเเช่ง
ด้านโพสต์เฟซบุ๊กของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เอง ก็ไม่น้อยหน้า ทนายตั้ม เหมือนกัน มีการตอบกลับว่า "หลังพิงวัดอ้างพระอ้างเจ้า เดินสายเข้าวัดทำบุญ แต่เข้าไม่ถึงธรรมะ เพราะจิตใจร้อนรุ่ม ต่ำทราม ทำอะไรไม่ได้อย่างที่คิดก็สาปแช่ง" นอกจากนั้นยังมีการบอกอีกว่า ให้เจอกันบนชั้นศาลและเตรียมหลักฐานที่อ้างว่า นายชูวิทย์ รับเงินทุนสีเทามาให้ดูด้วย ไม่ใช่แค่กล่าวหากันลอย ๆ แบบนี้ และยังมีการบอกทิ้งท้ายด้วยว่า ให้ฝึกว่าความอ่านกฎหมายให้มาก ๆ รักจะแฉ อย่าไปร้องงอแงเหมือนเด็ก