ขยี้ข่าวใหญ่ : คลั่ง กราดยิง เลียนแบบ ?

View icon 94
วันที่ 26 มี.ค. 2566 | 11.32 น.
ข่าวเด็ด 7 สี
แชร์
ข่าวเด็ด 7 สี - ข่าวใหญ่สัปดาห์นี้ เป็นเหตุระทึกขวัญกลางเมืองเพชรบุรี กับเหตุกราดยิง ที่ต้องบอกว่าเกิดขึ้นถี่จริง ๆ

ที่สำคัญครั้งนี้ไม่ใช่จบลงที่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีผู้บริสุทธิ์ต้องสังเวยชีวิตไปถึง 3 คน พร้อมกับคำถามว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นกำลังกลายเป็นโรคร้ายทางสังคม ที่นำไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบหรือไม่ แต่ก่อนจะไปไล่เรียงประเด็นต่าง ๆ ไปชมนาทีสยบชายคลั่งกัน

เสียงปืนรัว ๆ ที่คุณผู้ชมได้ยินเมื่อสักครู่ คือช่วงเวลาที่ตำรวจเข้าสยบชายคลั่ง ด้วยการวิสามัญฆาตกรรม ช่วงเช้ามืดของวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุชายคนหนึ่งคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนกราดยิงชาวบ้านภายในซอย 4 หมู่บ้านกรุงเพชรวิลล่า ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี แต่กว่าจะจบเหตุการณ์นี้ได้ ก็ใช้เวลานานถึง 15 ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีก 3 คน

สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เกิดจากความเครียดที่ผู้ก่อเหตุมีเรื่องทะเลาะวิวาทอยู่กับนักศึกษาที่เช่าห้องฝั่งตรงข้ามบ้าน จนกลายเป็นคดีความถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล สุดท้ายเลือกวิธีผิดจบปัญหาด้วยการปลิดชีวิตคู่กรณีและเพื่อนที่เป็นพยานในเหตุการณ์ไป 2 คน และผู้บริสุทธิ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยเลย เพียงแค่โชคร้ายขี่รถไปส่งพัสดุผ่านคิลลิงโซนพอดี จนต้องสังเวยชีวิตเป็นรายที่ 3 และแน่นอนว่าเกิดเหตุรุนแรงทุกครั้ง คำพูดที่ตามมาคือ การถอดบทเรียน

เหตุการณ์นี้ถือเป็นเหตุรุนแรงครั้งที่สองในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ หลังเกิดเหตุสารวัตรกานต์ ก่อเหตุคลุ้มคลั่งยิงปืนออกจากในบ้านย่านสายไหม เคราะห์ดีในครั้งนั้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

เรามาเปรียบเทียบดูทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ มีจุดร่วมที่เหมือนกัน เริ่มจากผู้ก่อเหตุมีอาการเครียด มีอาวุธปืนอยู่ในมือ มีกระสุนปืนจำนวนมาก เสพยาเสพติด ผ่านการฝึกใช้อาวุธปืนมาแล้ว โดยผู้ก่อเหตุที่จังหวัดเพชรบุรี เป็นอดีตทหารเกณฑ์ ส่วนผู้ก่อเหตุที่เขตสายไหม เป็นข้าราชการตำรวจ และเป็นครูฝึกยุทธวิธี

ส่วนที่แตกต่างกันคือ เหตุในจังหวัดเพชรบุรี ผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติป่วยทางจิตเวช ยิงผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 3 คน พูดคุยกับเพื่อนว่าจะไม่มอบตัว วางอุปสรรคป้องกันไม่ให้ตำรวจเข้าใกล้ และบอกว่าจะต่อสู้กับตำรวจชัดเจน เจ้าหน้าที่ใช้ทุกวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม รวมเวลา 15 ชั่วโมง ก่อนเกิดการวิสามัญฆาตกรรม

ขณะที่กรณีย่านสายไหม ผู้ก่อเหตุมีประวัติอาการป่วยทางจิตเวช มีการยิงข่มขู่ออกนอกตัวบ้าน ไม่ฟังการเกลี้ยกล่อม ขับไล่ไม่ให้เข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ใช้ทุกวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม มีการยิงก๊าซน้ำตาเพื่อกดดันเป็นระยะ รวมเวลา 26 ชั่วโมง ก่อนบุกเข้าจับกุม แล้วเกิดการยิงต่อสู้จนตำรวจยิงป้องกันตัว จบที่ผู้ก่อเหตุเสียชีวิต

เหตุกราดยิงซ้ำซากที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องอีกครั้ง ให้เร่งจัดระบบการครอบครองอาวุธปืน และหามาตรการป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ

อีกหนึ่งความกังวลจากความรุนแรงที่เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า คือ เกรงว่าในอนาคตสังคม จะเกิดความชินชาต่อความรุนแรง ขาดความยับยั้งชั่งใจ

โดยนายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่าสังคมควรถือเหตุการณ์ลักษณะนี้ เป็นอุทาหรณ์ นำไปสู่วิธีการคิด และ แก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เพื่อนำสู่การแก้ไขปัญหาเชิงระบบ ลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นซ้ำอีก

หลังเหตุการณ์ร้าย สิ่งที่ต้องจัดการต่อเนื่องคือ สภาพจิตใจ ทั้งของคนในครอบครัวผู้ก่อเหตุ เหยื่อ และชุมชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงผู้เสพข่าวด้วย

ซึ่งก็มีหลายวิธีที่นักจิตวิทยาหลายคนให้คำแนะนำไว้ อาทิ การไม่หมกมุ่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เก็บปัญหาไว้คนเดียว เปิดอกพูดคุยกับคนรอบข้าง พร้อมเผชิญหน้ากับความเป็นจริง ทำใจยอมรับ มองไปข้างหน้า และใส่ใจสุขภาพ สร้างคุณค่าให้ตัวเอง

และนี่คือขยี้ข่าวใหญ่ ที่ผมนำมาฝากคุณผู้ชมในวันนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง