ความในใจของครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ ดีใจและภูมิใจในความสูญเสีย 1 ชีวิต ช่วยได้ 4

ความในใจของครอบครัวผู้บริจาคอวัยวะ ดีใจและภูมิใจในความสูญเสีย 1 ชีวิต ช่วยได้ 4

View icon 1.4K
วันที่ 26 มี.ค. 2566 | 18.43 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เป็นความดีใจและภาคภูมิใจในความสูญเสีย ครอบครัวหนึ่งสูญเสีย เพื่อให้อีก 4 ครอบครัวได้ชีวิต "น้องคิม" อาจไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่พ่อเลี้ยงน้องมาตั้งแต่ขวบเศษ นี่ก็ใกล้จะครบ 100 วันแล้ว ยังรู้สึกว่ามีเขาอยู่ เพราะเขาทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เป็นเจตนาของลูกชาย ที่เคยพูด “ป๊า ถ้าหนูตาย อะไรให้ใครได้ ป๊าให้เขาหมดเลยนะ” บริจาคลิ้นหัวใจ ดวงตา ไต สร้างกุศลใหญ่ให้ลูกได้ติดตัวไป 

ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ผู้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทยที่ล่วงลับ เพื่อแสดงความขอบคุณและระลึกถึงผู้ที่บริจาค เนื่องในงานวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ประจำปี 2566 ภายในงาน นายสมประสงค์ อยู่สุข พ่อของน้องคิม นายสุริยา ลาปราบ อายุ 28 ปี เป็นตัวแทนขึ้นกล่าวความในใจของผู้บริจาค

นายสมประสงค์ บอกเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของน้องคิม โดยบอกว่าน้องคิมอาจไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของผม แต่ผมเลี้ยงดูแลน้องมาตั้งแต่ขวบเศษ เมื่ออายุครบบวช น้องคิมมาบอกกับพ่อแม่ว่าจะบวชให้พ่อแม่ บวชเรียนได้ 3 พรรษา น้องก็สึกออกมาทำงานเลี้ยงพ่อแม่ ช่วงหนึ่งน้องไปทำงานที่นครปฐม ช่วงนั้นไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น นายจ้างชะลอการจ่ายเบี้ยเลี้ยงถึง 2 เดือน แต่น้องคิมไม่เคยบอกพ่อแม่ อดมื้อกินมือไม่อยากให้พ่อแม่ทุกข์ใจ เมื่อครอบครับทราบเรื่องจากเพื่อนร่วมงาน พ่อจึงไปรับน้องคิม กลับมา ลูกพักฟื้นร่างกายอยู่ 1 เดือน จำได้ว่าเป็นช่วงเดือน พ.ย.65 เมื่อน้องคิมแข็งแรงดีแล้ว จึงไปทำงาน และตั้งใจว่าปีใหม่จะกลับบ้านที่ จ.ขอนแก่น พร้อมพ่อและแม่

นายสมประสงค์ เล่าว่า น้องคิมทำงานไม่เคยหยุด ไม่เคยลา เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในวันที่ 25 ธ.ค. 65 ผมกลับจากงานที่ชลบุรี เห็นน้องนอนอยู่ในห้องถามว่าทำไมไม่ไปทำงาน น้องบอกว่าอยากนอนพัก กระทั่งช่วงบ่ายได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า น้องคิมเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์กระบะ รพ.แจ้งว่าอาการไม่ดี แพทย์แจ้งว่าน้องขาหักทั้ง 2 ข้าง บาดแผลที่ศรีษะไม่สามารถทำอะไรได้ น้องเสียเลือดมาก ความดันไม่ดี ให้พ่อแม่ทำใจไว้ส่วนหนึ่ง

“วินาทีที่เห็นหน้าลูก ตอนหมอพาลูกออกจากห้องไปเอกซเรย์สมอง ผมกระซิบข้างหูลูก ใจมันสลายนะ ผมพูดกับลูกว่า ไหนปีใหม่จะกลับบ้านกับป๊าไง ลุกมาคุยกับป๊า ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนนิ้วเขาขยับได้ แม่เขาบอกว่าเห็นน้ำตาลูกไหล ในความไม่รู้สึกตัว ลูกอาจสัมผัสได้ถึงความรักจากพ่อกับแม่ หมอแจ้งว่าน้องอยู่ในภาวะสมองตาย สามารถบริจาคอวัยวะช่วยผู้อื่นได้”

นายสมประสงค์ เล่าด้วยว่า รุ่งเช้าพี่ชายของน้องคิมเดินทางมาถึงโรงพยาบาล ต่อว่าพ่อกับแม่เพราะเขากลัวว่าน้องจะเจ็บปวด กลัวน้องไปเกิดชาติหน้ามีอวัยวะไม่ครบ ผมกับภรรยาอธิบายจนเข้าใจในกุศลใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นบุญใหญ่ของน้องในภายภาคหน้า โดยน้องคิมสามารถบริจาค ลิ้นหัวใจ ดวงตา และไต ส่งต่อไปช่วยผู้ป่วยได้ถึง 4 คน

“เป็นความดีใจและภาคภูมิใจในความสูญเสีย ครอบครัวหนึ่งสูญเสีย 1 ชีวิต เพื่อให้อีก 4 ครอบครัวได้ชีวิต นี่ก็ใกล้จะครบ 100 วันของการจากไปของลูกชาย ผมยังรู้สึกว่ามีเขาอยู่ข้างๆ เพราะเขาทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เป็นเจตนาของลูกชาย ที่เคยพูด “ป๊า ถ้าหนูตาย อะไรให้ใครได้ ป๊าให้เขาหมดเลยนะ”