เลือกตั้ง 2566 : ส่องชะตาพรรคเล็ก-พรรคเกิดใหม่

View icon 123
วันที่ 27 มี.ค. 2566 | 07.14 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ขอบสนามเลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย วันนี้ ชวนคุณผู้ชมไปดูชะตากรรมพรรคเล็ก และพรรคใหม่กันหน่อย ท่ามกลางสูตรการคำนวณที่เปลี่ยนแปลงไป กับกระแสขั้วการเมืองที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จะฝ่าคลื่นลมเข้าป้ายไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรกันมากน้อยแค่ไหน
 
ส่องชะตาพรรคเล็ก-พรรคเกิดใหม่
ก่อนอื่นเรามาย้อนดูยุคทองของพรรคเล็กกันก่อน ในการเลือกตั้งปี 2562 ที่ใช้วิธีคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม และมีบัตรแค่ใบเดียว ส่งผลให้มีพรรคเล็กที่ได้ สส. 1 คน จำนวนมากถึง 11 พรรค โดยได้คะแนนอยู่ระหว่าง 30,000 คะแนนขึ้นไป จนถึงกว่า 60,000 คะแนน ซึ่งต่ำกว่าคะแนน สส.พึงมีที่กำหนดไว้ 71,168 คะแนน จนถูกเรียกว่าเป็น สส.ปัดเศษ

โดยในจำนวนนี้ก็มีทั้งยุบพรรคตัวเองไปรวมกับพรรคอื่นแล้ว และมีทั้งที่ไม่ไปต่อ รวมถึงยังสู้ต่อในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่โอกาสที่จะได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ก็ดูจะริบหรี่เต็มที

โดยหากคำนวณจากคะแนนที่พรรคการเมืองเหล่านี้เคยได้ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เทียบกับสูตรหารร้อยและกติกาใหม่บัตรสองใบ แยก สส.เขต กับบัญชีรายชื่อ คนละใบ ไม่มีอั้นจำนวน สส.พึงมี ที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ สส.บัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียวในครั้งก่อน ก็ทำให้ อาจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ฟันธง พรรคเล็กเหล่านี้มีโอกาสสูญพันธุ์ ขณะที่หลายพรรคการเมืองก็จะได้จำนวน สส.บัญชีรายชื่อลดลงด้วย

มาดูพรรคเกิดใหม่กันบ้าง โดยโฟกัสเฉพาะที่เปิดตัวโดยมีคนดังก่อตั้ง มี 2 พรรคไปต่อไม่ไหว ใช้วิธีเหมือนกันคือ ไม่ยุบพรรคแต่ยุบแกนนำ คือ พรรคกล้า และพรรคสร้างอนาคตไทย

โดยในส่วนของพรรคกล้า ไปทำงานการเมืองร่วมกับ พรรคชาติพัฒนา รวมเป็นพรรคชาติพัฒนากล้า มีคุณกรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรค คุณเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นเลขาธิการพรรค และมีคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานพรรค ตั้งเป้าเลือกตั้งเที่ยวนี้กวาด สส.ไม่ต่ำกว่า 25 คน ขณะที่การเลือกตั้งคราวที่แล้วได้ สส.เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น

อีกพรรคที่ไปต่อไม่ไหว สุดท้ายแกนนำกลับไปซบรังเดิม ก็คือ พรรคสร้างอนาคตไทย ทั้งคุณอุตตม สาวนายน และคุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ทิ้งพรรคไปเป็นทีมเศรษฐกิจให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งในขณะนี้ก็ต้องเรียกว่าสถานการณ์ไม่ดีนัก เนื่องจากมี สส.ย้ายพรรคจำนวนไม่น้อย ขณะเดียวกันฐานเสียงยังแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ หลังจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แยกตัวไปสร้างดาวคนละดวง กับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่บิ๊กป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่หวั่น ยังเดินหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง หมายมั่นปั้นมือกวาด สส.เป็นพรรคอันดับหนึ่ง โดยในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้สส. 121 คน แต่คราวนี้กูรูฟันธงกลายเป็นพรรคหลักสิบ

ส่วนพรรคเกิดใหม่ ที่ยังยืนหยัดไปต่ออย่าง ไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แม้สง่าราศียังไม่จับ แต่เดินเครื่องเต็มสูบ ใช้กลยุทธ์ความผูกพันกับประชาชนมาเป็นจุดขาย ประกาศขอสู้เพื่อชัยชนะของประชาชน หยุดการเมืองสองขั้ว หยุด Last War จุดเริ่มต้นความขัดแย้งการเมืองรอบใหม่ อาสาเป็นผู้นำพาประเทศออกจากวิกฤต นำชัยชนะที่แท้จริงมาสู่ประชาชน

ขณะที่พรรคเกิดใหม่ที่ดูจะมาแรงที่สุด น่าจะเป็น รวมไทยสร้างชาติ ได้พลเอกประยุทธ์ ไปเป็นแคนดิเดตในบัญชีนายกฯ แต่ยังไม่ชัดจะลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อด้วยหรือไม่ แต่วาดฝันได้ สส.ไม่ต่ำกว่า 80 ที่นั่ง หลังมีอดีต สส.ไปตุนแล้วกว่า 30 คน โดยพลเอกประยุทธ์ ประกาศขอเป็นรัฐบาลทำงานยาว 4 ปี แต่ต้องบอกว่าเป็นรัฐบาลอาจจะได้ แต่การเป็นนายกฯของพลเอกประยุทธ์ จะมีเวลาอีกราว 2 ปีเท่านั้น เว้นแต่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกกฎเหล็กห้ามเป็นนายกฯต่อเนื่อง 8 ปี

นิด้าโพล คน กทม. หนุน "พิธา" เป็นนายกรัฐมนตรี
คราวนี้มาดูผลโพลกันบ้าง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล พบว่าคนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ อยากให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี รองลงมาคือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วน สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนใหญ่ให้ความนิยมพรรคเพื่อไทย อันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นพรรคก้าวไกล และรวมไทยสร้างชาติ

พปชร.เปิด 100 ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อ
พรรคพลังประชารัฐ เปิด 100 ว่าที่ สส.บัญชีรายชื่อของพรรคแล้ว เป็นการปรับใหม่เพื่อให้ไปทำไพรมารีโหวต โดยลำดับที่ 1 แน่นอน พลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ลำดับ 2 คือ คุณสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค จากนั้นเป็น คุณชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, คุณอธิรัฐ รัตนเศรษฐ, คุณอุตตม สาวนายน, คุณไพบูลย์ นิติตะวัน, คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, คุณพิม อัศวเหม, คุณวิรัช รัตนเศรษฐ และลำดับ 10 คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

ส่วนที่น่าสนใจคือ คุณสกลธี ภัททิยกุล อยู่ลำดับที่ 11, คุณธนพร ศรีวิราช ภรรยาร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อยู่ลำดับที่ 16, คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และคุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อยู่ลำดับที่ 18 และ 22 ตามลำดับ

วันที่ 2 ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า เกือบ 50,000 คน
สำหรับวันที่ 2 ของการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และลงทะเบียนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรนั้น ในส่วนผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ามีแล้ว 47,315 คน โดยกรุงเทพมหานคร มากที่สุดกว่า 20,000 คน ส่วนชลบุรีเมื่อวานลงทะเบียนกว่า 3,200 คน นอกนั้นเป็นสมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีแรงงานต่างถิ่นจำนวนมาก

ส่วนคนไทยในต่างประเทศ ก็ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรกว่า 6,300 คนแล้ว และเมื่อรวม 2 วัน มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าใน และนอกราชอาณาจักรกว่า 91,000 คนแล้ว

เกาะติดทุกความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย ได้ที่ www.ch7.com/election2566

ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook : www.facebook.com/Ch7HDNews
Twitter : www.twitter.com/Ch7HD
IG : www.instagram.com/ch7hd_news
TikTok : www.tiktok.com/@ch7hd_news
Youtube : www.bit.ly/youtubech7hd