
นายต่อต้าน อุทัยดา ประธานราษฎรอาสาพิทักษ์ป่าเพื่อชีวิต (รสทป.) พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์โคกหินลาด ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ภายหลังจากที่พื้นที่ป่ากว่า 80% ถูกไฟไหม้เสียหาย เนื่องจากฝีมือมนุษย์ โดยป่าดังกล่าวเป็นป่าเต็งรัง เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง จะมีใบไม้แห้งสะสม มีอากาศร้อนจัด โดยความเชื่อของชาวบ้านเชื่อต่อๆ กันมาว่า ต้องจุดไฟเผาเพื่อรอฝน เมื่อฝนตกลงมาก็จะมีต้นเพ็ก ซึ่งเป็นไม้พื้นถิ่นของภาคอีสาน เป็นหญ้าชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายต้นไผ่เกิดขึ้น เพื่อให้วัวควายได้กิน นอกจากนี้ ยังได้หาสัตว์ป่า ได้เก็บดอกกระเจียว และเห็ดป่าได้ง่ายๆ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด และยังสร้างฝุ่นควันมลพิษ PM 2.5 ตามมาอีกด้วย

นายต่อต้าน กล่าวต่อว่า ป่าโคกหินลาดมีพื้นที่ทั้งหมด 2,622 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 6 ตำบล ประกอบด้วย ต.โคกก่อ ต.บัวค้อ ต.ดอนหว่าน ต.หนองปลิง ต.หนองโน อ.เมือง และ ตำบลหนองแสง อ.แกดำ รวม 23 หมู่บ้าน ที่ผ่านมาเกิดไฟป่าทุกปี เชื่อว่าเกิดจากฝีมือของมนุษย์ แต่ก็ยังไม่เคยจับตัวผู้กระทำผิดได้ เนื่องจากคนจุดใช้วิธีจุดธูป และนำไปเสียบไว้กับกล่องไม้ขีดไฟ รอจนธูปหมดก็จะไปติดกับหัวไม้ขีด จึงทำให้เกิดไฟไหม้ป่าขึ้น แต่ปีนี้หนักสุด เพราะไฟได้เผาผลาญพื้นที่ป่าไปแล้วกว่า 80% ทำให้สัตว์ป่าอย่าง กวาง หมาจิ้งจอก กระต่ายป่า งู เต่า แลน กระรอก กระแต เดือดร้อน
“จากการสำรวจวามเสียหายจากไฟไหม้ป่า พบว่ามีลูกหมาจิ้งจอกตายไป 1 ตัว งูเหลือมและเต่าที่หนีไฟไม่ทัน ก็ถูกไฟคลอกตายไปจำนวนมาก ส่วนกวาง 3 ตัว พบว่ายังมีชีวิตอยู่ โดยได้หนีไฟป่าลงไปทางอ่างเก็บน้ำด้านล่าง การทำงานของเจ้าหน้าที่มีการบูรณาการร่วมกันทุกส่วน มีการรับแจ้งว่าไม่ไฟไหม้ป่าโคกหินลาดเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมีนาคม 2566 รวมแล้วกว่า 10 ครั้ง ทุกครั้งก็จะมีรถน้ำ จาก อบต.โคกก่อ อบต.หนองปลิง อบต.บัวค้อ และราษฎรอาสาพิทักษ์ป่าเพื่อชีวิต (รสทป.) ออกควบคุมไฟป่าทุกครั้ง รอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ไฟไหม้เป็นบริเวณกว้างประกอบกับมีลมแรง ทำให้ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ ทำให้พื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วกว่า 80% ของพื้นที่ป่าทั้งหมด 2,622 ไร่” นายต่อต้าน ระบุ

ขณะที่ นายนันทวิทย์ นาคแสง นายอำเภอเมืองมหาสารคาม ฝากเตือนประชาชน อยากให้ทุกคนตระหนัก มีจิตสำนึกที่จะร่วมดูแลอนุรักษ์ป่าชุมชนผืนนี้ไว้ เพราะเป็นป่าชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดเพียงแห่งเดียวที่อยู่ติดพื้นที่เมืองมากที่สุด อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญ ไม่เห็นแกตัว ไม่เผาป่า เพื่อให้มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าได้อาศัยเป็นที่พักพิง และหาเก็บหากินของป่าตามฤดูกาลได้ตลอดชั่วลูกชั่วหลาน