หลานคลั่งยา ใช้มีดตัดหัวอา หิ้วหัวใส่ถุงพลาสติกทิ้งบ่อน้ำ

หลานคลั่งยา ใช้มีดตัดหัวอา หิ้วหัวใส่ถุงพลาสติกทิ้งบ่อน้ำ

View icon 95
วันที่ 27 มี.ค. 2566 | 19.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หลานคลั่งยา ใช้มีดตัดหัวอา หิ้วหัวใส่ถุงพลาสติกทิ้งบ่อน้ำ อ้างแค้นเรื่องส่วนตัว ญาติเชื่อหลอนยา ทั้งที่อาดูแลมาตลอด

วันนี้ (27 มี.ค. 66) ร.ต.อ.จรูญ โสพิกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา รับแจ้งว่า เกิดเหตุฆ่ากันตายที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ สุวรรณนพมาศ ผกก.ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 หน่วยกู้ภัยรัตภูมิ นางวิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผบช.ภาค9

ที่เกิดเหตุพบศพ นายวาสนา อายุ 52 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สภาพศพนอนตะแคงข้างเสียชีวิต ศีรษะถูกตัดขาดหายไปเหลือแต่ลำตัว และมีบาดแผลถูกฟันเป็นแผลเหวอะหวะ นอนเสียชีวิตอยู่ในสวนหลังบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบศีรษะในที่เกิดเหตุ โดยคนร้ายได้ตัดศีรษะ และหิ้วปีนข้ามกำแพงหลังบ้านไปด้วย โดยบนกำแพงยังมีรอยเลือดติดอยู่ คาดว่าน่าจะนำศีรษะไปวางไว้ ขณะที่ปีนข้ามกำแพง

ภายในบ้านที่เป็นร้านค้า ติดกับบ้านที่พบศพ พบคราบเลือดไหลย้อยเป็นทาง ตั้งแต่หน้าร้านไปจนถึงในครัวหลังร้าน ซึ่งมีกองเลือดกองใหญ่ และเป็นจุดที่คนร้ายลงมือฆ่า ก่อนที่จะลากศพไปตัดหัวที่หลังบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน

นอกจากนี้บ้านของผู้ตายที่อยู่ห่างออกไปราว 50 เมตร ก็พบเลือดไหลย้อยเป็นทาง รวมถึงภายในบ้านของผู้ตาย ทั้งหน้าบ้านและในห้องนอนก็เต็มไปด้วยรอยเลือด

จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเกียรติศักดิ์ อายุ 36 ปี เป็นหลานชายแท้ๆ ของผู้ตาย และมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน ทางเจ้าหน้าที่ตร. ได้ตามไปจับตัวได้ที่บ้าน ซึ่งเจ้าตัวยอมเดินออกมามอบตัวแต่โดยดี โดยไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด พร้อมกับอาวุธมีดคล้ายมีดสปาต้า ยาวประมาณ 30 ซม. ที่ใช้ก่อเหตุ และยอมรับว่าเป็นคนฆ่าตัดหัวนายวาสนา ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ของตัวเอง ส่วนศีรษะได้ตัดและนำใส่ถุงพลาสติกนำไปโยนทิ้งในบ่อทราย ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 500 เมตร

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตร. ได้ประสานชุดประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ มาดำน้ำค้นหาศีรษะในบ่อทราย ซึ่งมีความลึกประมาณ 7-8 เมตร ตรงจุดที่นายเกียรติศักดิ์ บอกว่านำศีรษะไปทิ้ง แต่หลังจากที่ดำน้ำค้นหานานหลายชั่วโมงยังไม่พบ

จากการสอบสวน นายเกียรติศักดิ์ ผู้ก่อเหตุเบื้องต้นอ้างว่ามีเรื่องโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวกับอา ที่ไปทำร้ายพ่อ และถูกอาใส่ร้ายว่าไปขโมยทีวี แต่เป็นเพียงคำให้การในเบื้องต้นเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะสภาพของ นายเกียรติศักดิ์ ไม่อยู่กับร่องกับรอยและมีประวัติติดยาเสพติด

อีกทั้งจากการสอบถามญาติใกล้ชิดและชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุน่าจะมาจากอาการหลอนยา คิดไปเอง เพราะปัจจุบันมีเพียงนายวาสนา ซึ่งเป็นอาคนเดียวที่คอยช่วยเหลือให้ข้าวให้น้ำกิน ให้เงินใช้ และมีบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน แต่ก็มักจะพูดเตือนบ้าง โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดและเรื่องงาน แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุอะไรถึงขั้นฆ่าได้อย่างโหดเหี้ยม 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง