แฉ จ่ายเงิน 1,500 บาท ได้ปรึกษาทนายดังแค่ 2 นาที

View icon 40
วันที่ 28 มี.ค. 2566 | 11.23 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - จากเรื่องเงินในถุงกระดาษ 6 ล้านบาท ลามไปถึงเรื่องการเรียกเก็บค่าแถลงของ ทนายษิทรา แม้ว่าเมื่อวานเจ้าตัวจะออกมาชี้แจงที่มาที่ไปแล้ว แต่ก็เหมือนจะไม่จบ มีคนที่อ้างว่าเคยจ่ายเงิน 1,500 บาท เพื่อขอคำปรึกษากับทนายความคนหนึ่ง ที่ควรจะได้หารือกัน 20 นาที แต่กลับได้คุยกันจริง ๆ แค่ 2 นาทีเท่านั้น

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ โพสต์ถึงประสบการณ์ที่เคยไปขอคำปรึกษาทางคดีกับทนายความคนหนึ่ง โดยบอกว่า ตอนนั้นยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ไปเจอช่องทางติดต่อกับทนายความ มีค่าบริการในการหารือทางโทรศัพท์ 1,500 บาท จะได้คุยกัน 20 นาที ก็ยอมโอนเงินจ่ายไป แต่พอได้แนะนำตัว บอกว่า จะปรึกษาคดีพลอยแดง เล่าเรื่องไปได้ประมาณ 2 นาที ทนายคนนี้ บอกว่า เรื่องนี้ต้องออกสื่อ ให้เข้ามาคุยกันที่สำนักงาน ให้นัดกับเลขาฯ แล้วก็วางสายไป พอคุยกับเลขาฯ ก็บอกว่าต้องชำระเงินเพิ่มอีก 3,000 บาท เพื่อลงคิวนัดเข้าพบที่สำนักงาน จึงสงสัยว่าคุ้มกันหรือไม่ และเพราะเหตุใดถึงไม่ให้ผู้บริการใช้สิทธิของตัวเองให้เต็มที่ก่อน

คนต่อมาที่พูดถึงเรื่องนี้ก็คือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาโพสต์ถึง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ใช้คำว่า "ทนายสีเทา" เนื้อหาในโพสต์เป็นเชิงชี้แนะถึงความมีคุณธรรมและจรรยาบรรณของวิชาชีพทนายความ ว่า อย่างไรจึงเหมาะสมกับคำว่า "ทนายประชาชน" โดยเปรียบเทียบกับอดีตที่ผ่านมาของตนเองว่า เคยผ่านธุรกิจสีเทามามาก แต่ก็ไม่เคยโกงหรือบังคับให้ใครมาทำ เรื่องการเก็บเงินค่าแถลงข่าว เป็นครั้งแรกที่เคยเจอในชีวิต และการใช้สื่อเป็นเครื่องมือ มาฟังเรื่องราวที่ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ ในเรื่องที่ตัวเองได้ผลประโยชน์ ก็เป็นเรื่องผิดวิสัย พร้อมยกตัวอย่างกรณีของอดีตดาราสาว "เอมี่" ที่ปัจจุบันหนีไปต่างประเทศ ซึ่งเรื่องนี้สมาคมสื่อและสภาทนายความฯ ควรดูเป็นกรณีศึกษา

ส่วนความเคลื่อนไหวของ ทนายตั้ม เดิมในกลุ่มไลน์ผู้สื่อข่าวมีการส่งกำหนดการว่า 10.00 น. วันนี้ ทนายตั้ม จะไปยื่นหลักฐานให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ต้องสงสัยว่า นายชูวิทย์ ได้รับเงินค่าปิดปากมาจาก "สารวัตรซัว" แต่ต่อมาก็แจ้งว่าไม่ได้ไป รอตำรวจสอบสวนกลางเรียกอย่างเดียว

ขณะเดียวกัน ทนายตั้ม ก็ได้ส่งภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ที่เล่าประสบการณ์เคยไปปรึกษาเรื่องทางคดีกับทนายความที่มีชื่อเสียง แต่ไม่ใช่ ทนายตั้ม ซึ่งก็มีการเรียกเงินค่าปรึกษาคดี 30,000 บาท โดย ทนายตั้ม บอกว่า มีคนโยงว่าเป็น ทนายเดชา แต่ได้สอบถามแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยให้คำปรึกษาทางวิดีโอคอล และเรียกเก็บเงิน

พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงกรณีที่ นายอัจฉริยะ นำหลักฐานมามอบให้ตรวจสอบเพิ่มเติมกรณีเงิน 6 ล้านบาท เป็นค่าปิดปาก นายชูวิทย์ ไม่ให้แฉเรื่องของ สารวัตรซัว ว่า ยังมีประเด็นที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม เริ่มจาก นายอัจฉริยะ ที่ต้องเรียกมาให้การเพิ่ม เช่นว่า ใคร, เกี่ยวข้องอย่างไร

คนต่อมา คือ นายชูวิทย์ ในฐานะคนรับเงิน ต้องซักถามว่า เป็นเงินค่าอะไร, มีที่มาที่ไปอย่างไร จากนั้นก็จะเรียก "พลตำรวจโท" และ "พลตำรวจตรี" ที่ นายอัจฉริยะ ระบุชื่อถึง มาให้ข้อมูลเช่นกันว่า เงินที่นำไปมอบมีที่มาที่ไปอย่างไร และสาเหตุที่นำไปมอบ

ส่วน ทนายตั้ม ก็ต้องเรียกมาให้ปากคำเช่นกัน เพราะเป็นคนเปิดโปงเรื่องนี้ เพียงแต่ยังกำหนดไม่ได้ว่าจะเป็นเมื่อไร ส่วนกรณีที่ นายชูวิทย์ บอกว่า อาจจะนำเงินมามอบให้ทางกองปราบฯ ก็พร้อมรับไว้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยังไม่ขอระบุว่า กรณีนี้จะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า เงินมีที่มาที่ไปอย่างไร

ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะไปเคลื่อนไหวที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ง. นำป้ายผ้าไปแขวนเพื่อเรียกร้องให้ข้าราชการในสำนักงาน ลุกขึ้นมาต่อสู้ ปัดกวาดบ้านตัวเองให้ขาวสะอาด หลังมีข่าวคนภายในเกี่ยวข้องกับเว็บฯ พนัน