ศาลปกครองพิพากษา กรมที่ดินละเลยปมที่ดินเขากระโดง

ศาลปกครองพิพากษา กรมที่ดินละเลยปมที่ดินเขากระโดง

View icon 240
วันที่ 30 มี.ค. 2566 | 12.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลปกครองกลางพิพากษา กรมที่ดินละเลย ปมที่ดินเขากระโดง สั่งจับมือ รฟท.ลุยสอบแนวที่ดิน พร้อมเตรียมตั้ง คกก.สอบสวน ขีดเส้นให้แล้วเสร็จใน 60 วัน

ที่ดินเขากระโดง วันนี้ (30 มี.ค.66) นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวภายหลังเข้ารับฟังคำพิพากษาศาลปกครองกลางในคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยื่นฟ้อง กรมที่ดิน กับพวก กรณีละเลยไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่าศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่ากรมที่ดินละเลยไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ส่วนในประเด็นที่ รฟท.ฟ้องว่ากรมที่ดินกระทำละเมิด ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนการขาดประโยชน์จากที่ดิน ที่เป็นของการรถไฟฯ ศาลพิพากษายกฟ้อง

ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางระบุว่าเป็นหน้าที่ของกรมที่ดิน ที่จะต้องดูแลที่ดินของรัฐ ก็ให้ไปดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งกรมที่ดินเคารพในคำพิพากษา จะดำเนินการตามคำพิพากษา โดยในวันพรุ่งนี้ (31 มี.ค.66) จะนำคำพิพากษาเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายของกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาว่าจะต้องอุทธรณ์คดีหรือไม่ อย่างไร และวางแนวปฏิบัติ

นายชยาวุธ ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้กรมที่ดินไม่ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 เนื่องจากปกติเมื่อกรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ให้กับประชาชนและมีการเข้าทำประโยชน์แล้ว การจัดตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะกระทำก็ต่อเมื่อได้มีกรณีต้องสงสัย หรือมีการตรวจสอบจนมีความชัดเจนพอสมควร ว่าน่าจะมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยผิดพลาดหรือโดยไม่ชอบ  เพราะถ้าตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 เจ้าหน้าที่ที่ดินจะต้องขึ้นบัญชีอายัด และติดประกาศอายัดที่สารบบที่ดิน โดยเจ้าพนักงานจะตัดหมายติดไว้ว่าที่ดินแปลงนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 เพื่อให้คนที่จะมาทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินแปลงดังกล่าวได้ทราบ

“ยืนยันว่า กรมที่ดินไม่ได้ละเลย เพราะผู้มีส่วนได้เสียกับที่ดินบริเวณนั้นร่วม 1,000 แปลง ซึ่งที่ผ่านมา 95% ของที่ดินที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 จะมีการเพิกถอน เราจึงต้องมีข้อมูลที่มั่นใจเพียงพอจึงจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพราะไม่ต้องการให้เกิดการกระทบกระเทือนกับประชาชนที่ถือเอกสารสิทธิ์จากกรมที่ดิน”
 
สัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ได้ฟังคำชี้แจงของตุลาการผู้แถลงคดี ได้เรียกประชุมและตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมอีก 1 ชุด ส่งข้อมูลให้ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพถ่ายทางอากาศดูแล้ว พบร่องรอยแนวรางรถไฟในพื้นที่ดังกล่าวกับรูปแผนที่ ที่ รฟท. เสนอต่อศาลเมื่อปี 2539 ซึ่งพบว่าเป็นคนละเส้นกันก็ให้เจ้าหน้าที่เรียบเรียงและรายงานต่อศาลแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาจะมอบหมายรองอธิบดีที่กำกับดูแลงานในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 โดยในคำพิพากษาวันนี้ชัดเจนว่า ศาลให้การรถไฟฯซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในบริเวณนี้ ร่วมกับกรมที่ดินไปดำเนินการตรวจสอบ แนวที่ดินให้ชัดเจนว่า แผนที่ที่ชัดเจนแน่นอนนั้นเป็นอย่างไร

สำหรับ คณะกรรมการสอบสวน จะให้ผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน นั่งเป็นประธาน และ ต้องสอบให้เสร็จภายใน 60 วันและขยายได้อีก 60 วัน หากดำเนินการไม่เสร็จ และหากท้ายที่สุดแล้วมีการเพิกถอนในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ กรมที่ดินก็ต้องมาพิจารณาว่าดำเนินการออกโดยชอบหรือไม่  ต้องรับผิดทาง วินัย อาญา และละเมิด หรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง