มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล จี้เลิกวาทกรรมเดิม ๆ ห้ามแต่งตัวโป๊เล่นน้ำสงกรานต์

มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล จี้เลิกวาทกรรมเดิม ๆ ห้ามแต่งตัวโป๊เล่นน้ำสงกรานต์

View icon 122
วันที่ 30 มี.ค. 2566 | 14.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล จี้ผู้ว่าฯกทม.เลิกวาทกรรมเดิม ๆ ห้ามแต่งตัวโป๊ แต่งชุดวาบหวิวเล่นน้ำสงกรานต์ แก้ปัญหาถูกคุกคามทางเพศ จี้ต้องเฝ้าระวัง เอาผิดจริง ๆ กับผู้กระทำผิด

วันนี้ (30 มี.ค.2566)  นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ห้ามแต่งตัวโป๊ วาบหวิวเล่นสงกรานต์ห่วงถูกคุกคามทางเพศ ว่า ปัญหาถูกคุกคามทางเพศจริง ๆ แล้วไม่ได้อยู่ที่การแต่งตัวโป๊ หรือวาบหวิว แต่มีสาเหตุมาจากอำนาจที่เหนือกว่าของผู้กระทำ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเห็นผู้กระทำมักจับกลุ่มกันทำพฤติกรรมลวนลามทางเพศ ส่วนใหญ่มีอาการมึนเมา เช่น การแตะเนื้อต้องตัว ใช้แป้งเป็นข้ออ้างเข้าไปสัมผัสอวัยวะต่างๆ ของผู้ถูกกระทำไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร อายุเท่าไหร่ ก็ถูกคุกคามทางเพศได้

“ทุก ๆ ครั้งข้าราชการประจำของ กทม.ผู้ว่าฯกทม. ยังเสนอวาทกรรมซ้ำ ๆ คือห้ามแต่งตัวโป๊ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกคุกคามทางเพศ แต่ปัญหาก็ยังมีให้เห็นตลอด เราเคยท้วงติงไปหลายครั้ง ปีนี้กลับยังใช้วาทกรรมเดิมๆ เสมือนเป็นการโยนความผิดใส่ผู้ถูกกระทำ แล้วปล่อยคนผิดลอยนวล ผมคิดว่าควรเลิกวาทกรรมห้ามแต่งตัวโป๊เสียที” นายจะเด็จ กล่าว

ทั้งนี้ สิ่งที่ กทม.ควรทำเพื่อให้เทศกาลสงกรานต์เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และผู้ร่วมงานมีความปลอดภัย คือ ออกกฎห้ามการคุกคามทางเพศทุกรูปแบบ ทุกเพศสภาพ รณรงค์ให้ช่วยกันเฝ้าระวัง ป้องกันกลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ มากกว่าการที่จะมาออกกฎควบคุมคนที่ถูกกระทำโดยการห้ามแต่งตัวโป๊ และ กทม.ควรประสานหน่วยงานรัฐ เช่น ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้คอยเฝ้าระวัง และลงโทษผู้ที่กระทำการละเมิด จัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุไม่พึงประสงค์ในพื้นที่เล่นน้ำ หรือจัดกิจกรรม ตลอดจนการอำนวยความสะดวกหากผู้เสียหายต้องการใช้สิทธิในทางกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง