ค้ากามเด็ก หาดป่าตอง ขยายผลพบข้อมูลออฟเด็กจากร้านไปข้างนอกเพื่อร่วมประเวณี 109 ครั้ง ลุยค้น 36 จุด ใน 10 จังหวัด อายัดทรัพย์ 22 ล้าน จับลูกค้าชาวต่างชาติผู้ซื้อบริการ ประสานตำรวจสากลล่าตัวเจ้าของร้าน
ค้ากามเด็ก หาดป่าตอง คืนวานนี้ (30 มี.ค.66) ที่กองบัญชาตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการขยายผลขบวนการค้ามนุษย์ในสถานบริการพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตไปสู่การเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 36 จุดใน 10 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อจับกุมและยึดอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาค้ามนุษย์ สืบเนื่องจากชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อมูลการประกอบธุรกิจแอบแฝงค้าประเวณีเด็ก จึงนำกำลังเข้าตวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ช่วยเหลือเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้ 6 คน
คดีนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้เร่งสืบสวนจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาดำเนินคดีทั้งหมด โดยจากการสืบสวนพบว่าร้าน Velvet ที่เกิดเหตุ ยังร้านในเครืออีก 3 ร้าน ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวเพิ่มอีก 3 คน ได้แก่ น.ส.เบญจมาภรณ์ นางสุภาพร และนายรอนนี่ โดยดำเนินคดีร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก โดยการแสวงหาประโยชน์จากกค้าประเวณี
ในชั้นสอบสวนพบว่า น.ส.เบญจมาภรณ์ ซึ่งมีชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ แต่ข้อเท็จจริงมีสถานะเป็นเพียงลูกจ้างของนายรอนนี่ แต่ถูกใช้เป็นนอมินี ส่วนนายรอนนี่ ซึ่งเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว โดยจะได้ประสานของหมายแดงตำรวจสากล เพื่อประสานติดตามจับกุมต่อไป
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของการแอบแฝงการค้าประเวณีเด็กนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบระบบจัดเก็บข้อมูลในร้านพบว่า มีข้อมูลการออฟเด็กจากร้านไปข้างนอก เพื่อร่วมประเวณีจำนวน 109 ครั้ง สามารถขยายผลติดตามเหยื่อที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีได้เพิ่มอีก 4 คน และสามารถขยายผลหาตัวผู้ใช้บริการทางเพศได้ และนำไปสู่การออกหมายจับชาวต่างชาติ 6 คน จับกุมแล้ว 3 คน
ตำรวจได้ขออนุมัติหมายค้น และร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์เข้าทำการตรวจค้น ตรวจอายัดทรัพย์ของผู้ต้องหาที่กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ตรวจค้นเพื่อหาพยานหลักฐานทางคดีจำนวน 36 จุด ใน 10 จังหวัด
ผลการตรวจค้น 1. อายัดบัญชีกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 52 บัญชี เงินหมุนเวียนในบัญชี 100 ล้านบาท 2.อายัดทาวน์เฮ้าส์ 2 หลัง มูลค่า 7,000,000 บาท 3.อายัดห้องชุด 1 ห้อง มูลค่า 5,000,000 บาท 4.อายัดที่ดินเปล่า 4 แปลง มูลค่า 10,000,0000 บาท 5.อายัดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ 4 คัน มูลค่า 500,000 บาท 6.ตรวดยึดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาและบริษัทอีก 20 บัญชี 7.เอกสารการเกี่ยวข้องกับการเงิน และเอกสารเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินรวมที่อายัด 22 ล้านบาท
