“อภิสิทธิ์” บอกจะกลับมาการเมืองเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค ลั่นยึดระบบกติกา ไม่เอาตัวเองเป็นหลัก ชี้สถานการณ์ขณะนี้ ยังไม่เหมาะ มอง ไม่แปลก “พลเอกประยุทธ์” ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ เพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่อง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ ภายหลังลงพื้นที่หาเสียงช่วย นายอภิมุข ฉันทวานิช ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขตยานนาวา-บางคอแหลมว่า ถ้าผู้สมัครประสานมา เวลาว่างตรงกันก็พร้อมที่จะลงพื้นที่หาเสียง ส่วนกลยุทธ์ในการขอคะแนนเสียงเพราะในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่มี สส.กทม.นั้น นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า เขตนี้ตนเป็นผู้แทนเก่าอยู่แล้ว และรู้จักกับผู้สมัครเป็นอย่างดี จึงไม่ยากที่จะมาขอ ความไว้วางใจให้กับนายอภิมุข สำหรับนโยบายในการเลือกตั้ง เป็นเรื่องของผู้บริหารชุดปัจจุบัน ซึ่งมีผู้รับผิดชอบอยู่แล้ว โดยคณะผู้จัดทำนโยบาย มีการรับฟังความคิดเห็น ศึกษาข้อมูลก่อนจะออกมาเป็นนโยบาย
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ไม่ลงสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ทำแบบนี้ได้ แต่ส่วนตัวยังอยากเห็นระบบรัฐสภาเหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่แม้จะไปทำงานฝ่ายบริหาร ยังต้องรับผิดชอบงานด้านนิติบัญญัติด้วย เพื่อให้การบริหารงานราบรื่น แต่มีข้อผิดพลาดในเรื่องของความเชื่อว่า ต้องแยกฝ่ายบริหารออกจากนิติบัญญัติ เนื่องจาก พอมีช่องว่างระยะห่างทำให้เกิดปัญหาขึ้น เช่น 4 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า เมื่อฝ่ายบริหารไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่สามารถเดินหน้าทำงานได้ ทั้งนี้ ใจตน อยากให้เป็นแบบนั้นแต่รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะพลเอกประยุทธ์ แต่รวมถึง นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน ที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยด้วย
เมื่อถามว่าจากการขึ้นปราศรัย ที่ยืนยันชัดเจนจะไม่ไปไหนกรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้า จะมีโอกาสกลับเข้ามาทำงานการเมืองเร็วขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะพูดมาเสมอว่า การจะทำงานการเมืองเต็มตัวต้องมีปัจจัยต่างๆให้เชื่อว่า เราทำประโยชน์ได้จริง ซึ่งขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรค ประชาชนความคิดอ่านของสังคม ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา จนถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนมองว่ายังไม่เหมาะ ที่จะกลับเข้ามาเป็น สส.จึงมาสนับสนุนพรรคในฐานะสมาชิกพรรค ซึ่งแล้วแต่ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดตนก็ทำประโยชน์ได้ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง นำความคิด ความสามารถ ประสบการณ์ แนะนำให้คำปรึกษากับทุกคนได้ ส่วนจะกลับเข้ามาการเมือง หลังไม่มี สว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องกติกา ตนเป็นคนที่อยู่ในระบบ รวมถึงระบบของพรรค และไม่เชื่อว่าจะยึดตัวเองเป็นหลักแล้วไปสร้างพรรคการเมือง เพื่อรองรับตัวเอง นักการเมืองทุกคนควรตระหนักว่า ทุกคนเป็นแค่เพียงคนหนึ่งในระบบเท่านั้น
“ผมก็เล่นตามกติกาในระบบแบบนี้ เพราะฉะนั้นถ้าผมจะกลับมา ก็ต้องหมายความว่า ทางสมาชิกพรรค กลับมาเห็นว่าผมสมควรจะกลับมา ทางสังคมให้โอกาสที่จะกลับมา ให้ไปทำงาน ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับตัวเราอย่างเดียว ผิดคำพูด” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ถ้ามีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เมื่อครบวาระ หากได้รับเลือกให้กลับเข้ามา จะกลับมาทำงานการเมือง ในสมัยนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น เพราะมีการเลือกตั้งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า สมาชิกพรรคทุกคนคงมาใส่ใจกับการสู้ศึกเลือกตั้ง ส่วนมีสมาชิกเรียกร้องให้กลับมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนมีแฟนคลับทั้งนั้น และมีคนชังด้วยเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ดังนั้นก็ขอบคุณถ้าใคร ก็ตามที่สนับสนุน ทุกคนก็เข้าใจเหตุผล เพราะตนก็ตรงไปตรงมากับสาธารณะตลอด และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนที่ย้ายออกไปบอกว่า นายอภิสิทธิ์ กลับมาแล้วค่อยย้ายกลับเข้าพรรคใหม่ นายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนจะบอกว่า ก็รอดูต่อไป
