ตาผูกคอตายแต่ยังโชคร้ายไม่หยุด ผ้าหลุดทำร่างกระแทกพื้นซ้ำ

ตาผูกคอตายแต่ยังโชคร้ายไม่หยุด ผ้าหลุดทำร่างกระแทกพื้นซ้ำ

View icon 4.7K
วันที่ 1 เม.ย. 2566 | 17.55 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตาวัย 85 ปี เครียดโรครุมเร้าใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตาย แต่ยังโชคร้ายไม่หยุดผ้าหลุดทำให้ร่างกระแทกพื้นซ้ำ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 เมษายน 2566 ร.ต.ท.หญิง อัญชิสา สถิตโสฬส พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนห้องเดียวสภาพเก่าอยู่ติดถนนเลียบบึงบ้านโพธ์ ภายในบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตสภาพนั่งคุกเข่าหน้ากระแทกพื้นเสียชีวิตอยู่ใต้เตียงนอน ทราบชื่อ นายสมจิตร์ อายุ  85 ปี ตรวจสอบสภาพศพไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย และไม่พบร่องรอยการรื้อค้นที่บริเวณหน้าผากมีแผลเป็นรอยถลอกจากการกระแทก เนื้อตัวเริ่มเขียวและมีน้ำเหลืองเริ่มไหลออกมา คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12 ชั่วโมง

ที่เกิดเหตุยังพบถังน้ำพลาสติกขนาดใหญ่สภาพปากถังคว่ำติดพื้นก้นถังแตก ที่ขื่อกลางห้องมีผ้าขาวม้าผูกต่อกันติดอยู่ ที่พื้นห้องมีข้อความใช้หมึกสีแดงเขียนด้วยมือ ข้อความลักษณะระบายความในใจ อยู่หลายประโยค และที่ใต้ชายคาหน้าบ้านพบถุงยาคุมความดันและยาลดเบาหวานห้อยอยู่ 2 ถุง 

จากการสอบถามนายประทีป อายุ 46 ปี ผู้พบศพคนแรก เล่าว่า ตนกำลังจะไปธุระขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นหน้าต่างบ้านผู้ตายเปิดอยู่ จึงตะโกนเรียกผู้ตาย เพราะปกติผู้ตายจะออกมานั่งหน้าบ้านทุกวัน แต่วันนี้ไม่เห็นก็เลยจอดรถแล้วเข้าไปดูเห็นผู้ตายนั่งคุกเข่าหน้ากระแทกพื้นอยู่ข้างเตียง จึงวิ่งไปบ้านหลานคนตาย ก่อนรีบกลับมาดู พบว่าเสียชีวิตแล้ว

ด้าน นางทุเรียน อายุ 82 ปี น้องสาวคนตาย  กล่าวว่า พี่ชายอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ตนเล็กๆ แล้ว ตนเคยชวนไปอยู่ด้วยแต่เขาไม่ไป เขาชอบอยู่คนเดียว พอจะกินข้าวถ้าเราว่างเราก็มากินด้วย ถ้าไม่ว่างเขาก็หากินเอง มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคหัวใจ ไขมัน ความดัน เบาหวาน ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

ทางด้าน นายพรมมา อายุ 49 ปี หลานชายคนตาย กล่าวว่า ผู้ตายเคยสั่งไว้ว่าถ้าตายให้เอาไปทำบุญที่วัด เขาบอกว่าเงินมีอยู่เท่านี้นะ ให้เอาไปทำบุญ เขาอยู่คนเดียวมีโรครุมเร้าเยอะทำให้เขาไม่อยากจะอยู่แล้ว ลูกหลานก็จะพากันวนมาดูตลอด แต่ไม่มีใครมาอยู่กับเขา น้องชายเขาก็เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อต้นปี ส่วนข้อความที่เขียนที่พื้นน่าจะเป็นการระบายความในใจแต่คงไม่เกี่ยวกับการตาย ก่อนหน้านี้เคยพยายามผูกคอตายมาแล้วแต่ญาติช่วยไว้ได้ กระทั่งมาวันนี้ไม่มีใครเห็นเขาจึงก่อเหตุได้สำเร็จ ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมอบศพให้ญาตินำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป