เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มอายุ 25 ปี ใช้ปืนลูกซองยิงภรรยาคนที่ 2 เสียชีวิตคาบ้านเมียคนแรก สาเหตุเพราะโกรธที่เคยห้ามผู้ตายแล้วไม่ให้มาบ้านหลังนี้ เมื่อเมียขัดคำสั่ง เลยตามมายิงจนเสียชีวิต
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.พลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ไปตรวจสอบเหตุยิงกันที่บ้านหลังหนึ่ง ในตำบลตาเสา พบร่าง นางสาวเจนจิรา อายุ 19 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้น เข้าท้องด้านซ้าย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพลับพลาชัย แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุคือ นายธีรพัฒน์ อายุ 25 ปี เป็นสามีของผู้เสียชีวิต หลบหนีไปหลังก่อเหตุ
นางสาวอวยพร อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ผู้เสียชีวิตมาเที่ยวที่บ้านเพราะเป็นเพื่อนกับลูกสาวคนโต จึงหาข้าว หาเหล้า มาล้อมวงดื่มกินกันเล็กน้อย โดยนั่งด้วยกัน 5 คน จนเวลาประมาณ 21.00 น. จู่ ๆ นายธีรพัฒน์ ไม่รู้มาจากไหน เดินปรี่เข้ามาในวง
นางสาวอวยพร ยังกล่าวด้วยว่า ลูกสาวคนโตของตนเคยเป็นภรรยากับ นายธีรพัฒน์ มือปืน มาก่อน มีลูกด้วยกัน 1 คน หลังจากเลิกกันไปแล้วลูกเขยไม่เคยมาเยี่ยมบ้านอีกเลย และเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ทราบข่าวว่าไปอยู่กินกับผู้ตาย และมีลูกด้วยกัน 1 คน เท่าที่รู้ทั้ง 2 คน มักจะเลิกกันแล้วคืนดีกันหลายครั้ง และครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งกลับมาคืนดีกันใหม่ ส่วนสาเหตุคิดว่ามาจากความหึงหวงแต่ไม่คิดว่าจะทำรุนแรงขนาดนี้
หลังหลบหนีไป ล่าสุดวานนี้ (6 เม.ย.) นายธีรพัฒน์ ผู้ก่อเหตุ ทนการกดดันของตำรวจไม่ไหว ติดต่อขอมอบตัวกับตำรวจ สภ.พลับพลาชัย ตำรวจนำตัวไปค้นในห้องนอนที่บ้าน พบของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซอง แบบไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และเสื้อผ้าที่ใส่ไปในคืนเกิดเหตุ ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวเป็นอย่างมาก นายธีรพัฒน์ รับสารภาพว่าเป็นคนยิง แต่ขอไปให้การในชั้นศาล
ตำรวจตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุ พบว่าก่อนเกิดเหตุมีการแชตคุยกับภรรยา ผู้ตาย ลักษณะเหมือนจะไม่ให้ไปที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ แต่ภรรยาตอบว่า มาแล้วพรุ่งนี้กลับ สุดท้ายฝ่ายชายบอกว่า “เดี๋ยวไปหา” กระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น
ส่วนมูลเหตุที่แท้จริง นายธีรพัฒน์ ระบายกับตำรวจบางส่วน ว่า ยอมรับว่าหึงหวง ภรรยาขัดคำสั่งที่บอกว่าไม่ให้ไป ประกอบกับเมาสุรา จึงทำให้กล้าไปก่อเหตุ
ภาพญาติร้องไห้ ส่วนร่างไร้วิญญาณของ นางสาวเจนจิรา ผู้เสียชีวิต ถูกนำมาทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องต่างร่ำไห้ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันตำรวจก็คุมตัวนายธีรพัฒน์ ไปทำแผนฯ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเช่นกัน เนื่องจากบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านอดีตแม่ยายของ นายธีรพัฒน์ ในบ้านหลังนี้มีลูกสาวของ นายธีรพัฒน์ อายุ 6 ขวบ อยู่ด้วย และรับรู้เหตุการณ์ตั้งแต่วันเกิดเหตุ
โดยหลังจากการทำแผนเสร็จสิ้น ลูกสาวของนายธีรพัฒน์ ได้ไปส่งพ่อขึ้นรถของตำรวจ เพื่อร่ำลาสั่งเสียกับพ่อ ก่อนตำรวจจะนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย