อากาศร้อนจัด ยอดใช้ไฟฟ้าพีครอบ 3 ของปี คาดปีนี้ทำลายสถิติใช้ไฟสูงสุด

อากาศร้อนจัด ยอดใช้ไฟฟ้าพีครอบ 3 ของปี คาดปีนี้ทำลายสถิติใช้ไฟสูงสุด

View icon 109
วันที่ 7 เม.ย. 2566 | 11.01 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อากาศร้อนจัด ยอดการใช้ไฟฟ้าพุ่งสูงสุดถึงจุดพีครอบ 3 ของปี ที่ 32,154.4เมกะวัตต์ ด้วยอุณหภูมิ 31.2 เซลเซียส คาดพีคปีนี้จะนิวไฮพุ่งไปที่ 34,000 เมกะวัตต์ 

วันนี้ (7 เม.ย.2566) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) รายงายสถิติการใช้ไฟฟ้าในระบบ 3 การไฟฟ้าพบว่า เมื่อเวลา 20.52 น.วานนี้ (6เม.ย. ) มีความต้องใช้สูงสุด (พีค) อีกครั้งเป็นรอบที่ 3 ของปีนี้ ที่32,154.4เมกะวัตต์  เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดด้วยอุณหภูมิ 31.2 เซลเซียส ทำให้คนเปิดเครื่องปรับอากาศ (แอร์) และพัดลมคลายร้อนมากขึ้น

ยอดใช้ไฟพีครอบที่ 3 ของปีนี้ ยังไม่ทำลายสถิติยอดใช้ไฟสูงสุดในระบบของประเทศที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2565 เวลา 22:36 น. ที่ 32,254.5 เมกะวัตต์ ด้วยอุณหภูมิ 32.0 องศาเซลเซียส

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คาดว่ายอดใช้ไฟฟ้าปีนี้ จะทำนิวไฮไม่ต่ำกว่า 3.4 หมื่นเมกะวัตต์  และเมื่อรวมกับไฟฟ้าของเอกชนที่ผลิตเพื่อใช้เอง (ไอพีเอส) อีก 5,000 เมกะวัตต์แล้ว ความต้องการไฟฟ้าของประเทศอาจสูงถึง 3.9 หมื่นเมกะวัตต์ในปีนี้

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า ค่าไฟเป็นแบบอัตราก้าวหน้าฤดูร้อนจะส่งผลให้ประชาชนเสียค่าไฟมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น  จึงได้แนะนำวิธีการที่จะช่วยให้ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย คือการหมั่นดูแล บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดี โดยยึดหลัก “ปิด – ปรับ – ปลด – เปลี่ยน” โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ ปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศมาอยู่ที่ระดับ 26-27 องศาเซลเซียส พร้อมเปิดพัดลมควบคู่ จะเป็นการช่วยให้ประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ควรปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน เปลี่ยนไปใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าประสิทธิภาพสูง และหมั่นล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เปลี่ยนพฤติกรรมโดยไม่เปิด-ปิดตู้เย็นบ่อยๆ พกกระติกน้ำแข็งไว้ดื่ม ไม่ควรกักตุนอาหารไว้ในตู้เย็นเกินความจำเป็น ตรวจขอบยางประตูตู้เย็นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เลือกใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า (เบอร์ 5) และควรใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ควรปิดสวิตช์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง เมื่อไม่ได้ใช้งาน หมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ถ้าชำรุดต้องซ่อมแซมทันที ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร รวมทั้งติดตั้งสายดิน พร้อมเครื่องตัดไฟรั่ว เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า

642f96fc597318.20594872.jpg