สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - นายอัจฉริยะ ไปยื่นหนังสือกับ 2 หน่วยงาน คือ บก.ปปป. และ สำนักงาน ป.ป.ง. เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินคดีเอาผิด พลตำรวจตรี เอกรักษ์ โดยอ้างว่ามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ากระทำผิดกฎหมายจริง
เริ่มจากที่แรกก่อน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไปยื่นหนังสือกับศูนย์รับแจ้งความที่นี่อีกครั้ง หลังเคยมายื่นเมื่อวันที่ 5 เมษายนแล้ว แต่หลักฐานยังไม่ครบถ้วนจึงกลับไปรวบรวมเพิ่ม ก่อนจะนำหลักฐานเดิม หลักฐานใหม่ คดีที่กล่าวหาว่า พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ป.ป.ง. กับพวก ร่วมกันลักทรัพย์, รับของโจร, ปลอมลายมือชื่อ และใช้เอกสารปลอม เพื่อดำเนินการขายทอดตลาดรถยนต์ของ "ผู้กำกับโจ้" รวม 13 คัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งคราวนี้ นายอัจฉริยะ พูดแบบค่อนข้างมั่นใจว่า จะเอาผิดได้แน่นอน
และนอกจากนี้คดีนี้ ก็ยังขอให้ตำรวจ บก.ปปป. ตรวจสอบและดำเนินคดีกับ พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนด้วย เรื่องนี้พูดรายละเอียดไม่เยอะ แต่ยืนยันเช่นกันว่ามีหลักฐานมัดตัวดำเนินคดีได้ โดยเฉพาะสลิปการโอนเงินของผู้ต้องหาคดีเว็บฯ พนัน จำนวน 560,000 บาท
จากนั้นช่วงบ่ายก็ไปยื่นหนังสือที่สำนักงาน ป.ป.ง. ต้นสังกัดของผู้ที่กล่าวหา ไปขอให้ตรวจสอบทุกประเด็นที่เคยเป็นข่าว ไม่ว่าจะเรื่องถุงเงิน 6 ล้าน, เรื่องลักทรัพย์รถของ "ผู้กำกับโจ้" และเรื่องรับเงินสินบนช่วยเหลือคดี ว่าพบความผิดปกติใดหรือไม่ พร้อมกันนี้ก็ขอให้พิจารณาตั้งกรรมการสอบวินัยด้วย แม้ว่าคดีที่ว่ามาทั้งหมด จะเป็นเรื่องที่เกิดก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็น "รองเลขาธิการ" ก็ตาม แต่เพราะปัจจุบัน พลตำรวจตรี เอกรักษ์ อยู่ในตำแหน่งที่ดูแลเรื่องการฟอกเงินโดยตรง จึงเห็นว่าเป็นการเสี่ยงต่อการใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ผิดได้
ด้าน นางสาวสุปราณี สถิตชัยเจริญ รองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ง. ระบุว่า จะรับเรื่องไว้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะเวลาตรวจสอบข้อมูลเท่าใด แต่ยืนยันจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
