รวบ ดร.เอก คนปั้นดิน หลังหลอกเหยื่อ อ้างสนิทรองนายกฯ ฝากเข้ารับราชการได้ แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการ รายละ 2-3 แสนบาท เบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 14 ล้าน
สืบนครบาล ร่วมกับชุด PCT 5 ออกลาดตระเวนออนไลน์ พบประชาชน ซึ่งเคยถูกคนร้าย ชื่อ ดร.เอก ฅนปั้นดิน อ้างว่าสามารถฝากเข้ารับราชการองค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่นได้ สนิทกับ รองนายกรัฐมนตรี เหยื่อหลงเชื่อจ่ายเงิน 3 แสน แล้วหนีหาย จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนและศาลได้พิจารณาออกหมายจับแล้ว เหตุเกิดวันที่ 3 กันยายน 2560
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหา จนทราบว่าคนร้ายคือ นายวรพนธ์ หรือเอก มีหมายจับที่ยังต้องการตัว เพื่อดำเนินคดีอยู่ 6 หมายจับ ตำรวจจึงรีบทำการสืบสวน เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้าย จนกระทั้งวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 13.00 น.ตำรวจสามารถติดตามจับกุม นายวรพนธ์ ได้ ที่บริเวณหน้าตลาดละแมเมืองใหม่ ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร
โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าตนเองเรียนจบปริญญาตรี คณะครุศาตร์ สาขาโยธา , ปริญญาโทคณะบริหารการศึกษา มีทักษะในการพูดเชิงโน้มน้าว เป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นำ การทำงานเป็นทีม รับจัดกิจกรรม Team Building , Walk Rail ฝึกอบรมสัมมนาและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ ความสามารถ โดยเน้นจัดสัมมนาในรูปแบบกิจกรรมบันเทิงเชิงสาระตรงตามวัตถุประสงค์และค่านิยมขององค์กรต่างๆ และรับทำพิธีบวงสรวงต่างๆ เช่น พิธีบายศรู่ขวัญ ปฐมนิเทศ ปัจฉิมนิเทศนักเรียน นักศึกษาฯลฯ มีประสบการณ์การทำงานด้านนี้กว่า 15 ปี
ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับคดีที่ถูกจับกุม ผู้ต้องหาให้การว่าตนเงอมีพฤติการณ์ชักชวนหาคนที่สนใจเข้ารับราชการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์ หรือผู้ซึ่งเคยเข้ารับการอบรมกับตน ตลอดจนบุคคลที่นับถือศรัทธาตนผ่านการบอกต่อปากต่อปากของคนที่นับถือตน ว่าสามารถฝากบรรจุเข้ารับราชการในหน่วยต่างๆ ได้ เช่น สอบบรรจุนายสิบทหารบก , นายสิบตำรวจ , ข้าราชการครู และหน่วยราชการอื่น ๆ อีกหลายหน่วยงาน โดยเรียกเก็บเงินกับบุคคลที่สนใจต่อหัว รายละ 200,000 – 300,000 บาท โดยอ้างว่าสามารถวิ่งเต้น โดยตนอ้างใช้เส้นสายของนักการเมืองระดับรองนายกรัฐมนตรีฝากเข้ารับราชการ มีผู้ร่วมขบวนการซึ่งอ้างว่าเป็นคนทำหน้าที่ติดต่อกับรองนายกรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงให้ช่วยวิ่งเต็นได้ ชื่อนายเสกสรร โดยมีการแบ่งผลประโยชน์ที่ได้จากเหยื่อแต่ละรายกัน คือตนเองได้ 20 เปอร์เซ็นต์ นายเสกสรร ได้ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัตินายเสกสรร พบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” มาแล้ว เมื่อปี 2562
สำหรับประวัติ นายวรพนธ์ เป็นที่รู้จักในนาม ดร.กิตติมศักดิ์ วรพนธ์ หรือ “ครูเอก ฅนปั้นดิน” ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมไทย เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมวิทยากรฅนปั้นดิน, ประธานฝ่ายกิจกรรม สหพันธ์คนดนตรีแห่งประเทศไทย, ผู้ช่วยผู้ตรวจการประจำสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ, เลขานุการองค์กรการมีส่วนร่วมภาคประชาชนตามรัฐธรรมนูญ, คณะกรรมการองค์กรปลูกปัญญาเรียนรู้ชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเคยได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น ด้านอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรม ม.ย่านปทุม , รางวัลธรรมลักษณ์ศิลา คนดีแบบอย่างของชาติ, รางวัลศิษย์ดีเด่น คนดีศรีพอเงิน, รางวัลลูกผู้มีความกตัญญูอย่างสูง, รางวัลผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ, รางวัลบุคคลดีของแผ่นดิน สาขาบุคคลผู้เป็นต้นแบบต่อสังคมดีเด่น จนภายหลังเป็นวิทยากรฝึกอบรม จัดสัมมนา พิธีกร และรับจัดพิธีกรรมตามงานมงคลต่างๆ เช่น พิธีบวงสรวง พิธีบายศรีสู่ขวัญ ทำขวัญนาค ทำขวัญบ่าวสาว
ที่ผ่านมาก่อเหตุในลักษณะนี้มาตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2560 ถึง มกราคม 2561 มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อประมาณเดือนละ 10 ราย มูลค่าความเสียหายของผู้เสียหายแต่ละรายประมาณ 200,000 ถึง 300,000 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท เงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และค่าใช้จ่ายในการหลบหนีเมื่อรู้ตัวว่ามีหมายจับตั้งแต่ปี 2561
จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ณ ปัจจุบัน นายวรพนธ์ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีรวม จำนวน 6 หมายจับ ประกอบด้วย
1) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ.133/2561 ลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงทรัพย์ ”
2) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 133/2561 ลงวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.อู่ทอง ภ.จว.สุพรรณบุรี
3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ จ.437/2561 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.หางดง ภ.จว.เชียงใหม่
4) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ที่ 155/2561 ลงวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.อู่ทอง ภ.จว.สุพรรณบุรี
5) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ที่ 156/2561 ลงวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.อู่ทอง ภ.จว.สุพรรณบุรี
6) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ที่ 157/2561 ลงวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2561 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.อู่ทอง ภ.จว.สุพรรณบุรี
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการประสานแจ้งให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในส่วนของหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี ดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาต่อพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย เป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย ภ.จว.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป