เลือกตั้ง 2566 : ชัยวุฒิ แนะ เศรษฐา ต้องเป็นน้องเขยเจ้าของพรรค ถึงจะเป็นนายกฯได้ตลอดรอดฝั่ง

เลือกตั้ง 2566 : ชัยวุฒิ แนะ เศรษฐา ต้องเป็นน้องเขยเจ้าของพรรค ถึงจะเป็นนายกฯได้ตลอดรอดฝั่ง

View icon 155
วันที่ 10 เม.ย. 2566 | 08.28 น.
ข่าวช่อง7HD
แชร์
ชัยวุฒิ แนะ เศรษฐา ต้องเป็นน้องเขยเจ้าของพรรค ถึงจะเป็นนายกฯได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ถูกเปลี่ยนกลางคันหากทำเรื่องขัดใจ

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคประชารัฐ ขึ้นปราศรัย ย้ำว่าบางนโยบายแม้ว่าจะถูกใจคน แต่ไม่ถูกต้อง พรรคพลังประชารัฐก็ไม่ทำ อย่างเช่นการยกเลิกเกณฑ์ทหาร ที่บางพรรคการเมืองนำมาหาเสียง โดยที่ไม่คำนึงถึงความมั่นคงของชาติ

หากประชาชน เลือกพรรคพลังประชารัฐ  ก็จะมีคนทำงานชัดเจน โดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทำงานตามระบบประชาธิปไตย 100% ซึ่งต่างจากพรรคเพื่อไทยที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ลงสมัคร สส.ไม่ได้เข้าสภา และหัวหน้าพรรคก็ไม่ได้ลงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่กลับเป็น น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคนี้ ซึ่งชัดเจนว่านายเศรษฐาได้เตรียมตัว เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เห็นได้จากการโอนหุ้นทั้งหมดออกไปแล้ว แต่นางสาวแพรทองธารยังไม่ได้มีการโอนหุ้น จึงฟันธงได้ว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยนายเศรษฐาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ขอเตือนไปยังผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ด้วยความเป็นห่วงว่าจะต้องทำตามที่เจ้าของพรรคการเมืองสั่ง ถ้าไม่ทำตามก็จะอยู่ไม่ได้ ส่วนตัวเชื่อว่า นายเศรษฐา มีความเป็นตัวของตัวเอง เป็นนักธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ใช่คนในครอบครัว หากทำไม่ได้หรือขัดใจ เจ้าของพรรคก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่โหวตเลือก นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทำ ไม่ถูกใจเจ้าของพรรค จึงมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ เป็นนายสมชายวงศ์สวัสดิ์ ซึ่งมีสถานะเป็นน้องเขยเจ้าของพรรค

ดังนั้นขอเตือน นายเศรษฐาว่า หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี มีเพียงแค่ 2 ทางเลือก คือ 1 ทำตามที่เจ้าของพรรคสั่ง หรืออีกทางเลือกคือต้องเป็นน้องเขยเจ้าของพรรค จึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ตลอดรอดฝั่ง