เช้านี้ที่หมอชิต - พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล สั่งขยายผลจับกุมเครือข่าย "นวพร" ผู้อำนวยความสะดวกให้แก๊งจีนเทา เข้ามาสวมบัตร - รับอุ้มบุญให้กับชาวจีน โดยขณะตำรวจอ่านหมายจับให้ฟัง ผู้ต้องหารายนี้ถึงกับมีอาการเป็นเป็นอย่างไร
นี่เป็นภาพเหตุการณ์ในขณะที่ตำรวจอ่านหมายจับให้ นางสาวนวพร อายุ 53 ปี ฟัง ทำให้เจ้าตัวถึงกับมีอาการอย่างที่เห็น คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา ตำรวจได้สืบสวนขยายผลกรณีชายชาวจีนสวมบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย หรือ บัตรชมพู และเข้าตรวจค้นอาคาร 5 ชั้นย่านถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ พบบุคคลต่างด้าว 7 ราย และตรวจพบว่า สภาพภายในมีการแบ่งซอยเป็นห้องพัก และมีอุปกรณ์ไว้สำหรับดูแลหญิงไทยที่รับอุ้มบุญให้กับชาวจีน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลให้ทราบถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสวมบัตรชมพู และกรณีการอุ้มบุญดังกล่าว โดยพบว่าเจ้าของสถานที่คือ นางสาวนวพร อายุ 53 ปี เป็นคนนำรายชื่อบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้าน โดยแจ้งเท็จต่อเจ้าหน้าที่ว่าเป็นญาติของตน และสำแดงเอกสารเท็จ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ย้ายชื่อบุคคลดังกล่าวเข้ามาในทะเบียนบ้านและออกบัตรชมพูให้กลุ่มจีนเทา
จากนั้นตำรวจได้รวบรวม พยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับ นางสาวนวพร ดำเนินคดีในความผิดฐาน ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการ ปลอม, ร่วมกันแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และร่วมกันปลอมและใช้ดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นปะตรวจลงตรา การเดินทางระหว่างประเทศ โดยจับกุม นางสาวนวพร ได้เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมาและยังพบว่า น.ส.นวพร นั้น เป็นบุคคลสัญชาติจีนที่ได้รับสัญชาติไทยจากการแต่งงานกับคนไทย
เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงคนจีนมาลงทุนทำธุรกิจ ความเสียหายมากกว่า 700 ล้านบาท มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทั้งในจีน ไทย และกัมพูชา เป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปี และมีทรัพย์สินในครอบครองเป็นบริษัทหลายแห่ง ทั้งยังทำหน้าที่เป็นคนประสานงานอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทาอีกด้วย ระหว่างตำรวจอ่านหมายจับให้ฟัง นางนวพรก็พยายามบอกว่าตนเองไม่ผิด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบยังพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางรักที่ได้ทุจริต ซึ่งจะขอศาลออกหมายจับต่อไป และในวันนี้จะประสานเพื่อพูดคุยกับปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ตรวจสอบเรื่องสัญชาติของ นางสาวนวพร ว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่
