เตือนภัย ยาอี-ยาเค รูปแบบใหม่ บรรจุซองคอลลาเจน โฆษณาขายยอดฮิตในติ๊กต็อก

ฮิตในติ๊กต็อก โฆษณายาอี-ยาเค รูปแบบใหม่ บรรจุซองคอลลาเจน ราคาซองละ 1,500 บาท ขายส่งซองละ 1,200 บาท ใช้เบอร์เพื่อนบ้านติดต่อซื้อ-ขาย ป.ป.ส. ประสานเพื่อนบ้าน หากพบคนไทยกระทำผิดก็ต้องรับโทษในไทยด้วย

วันนี้ (12 เม.ย.66) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวถึงกรณีมีผู้ใช้ติ๊กต็อก (tiktok) โพสต์จำหน่ายยาอีในรูปแบบซองเครื่องดื่มเกลือแร่ ซองคอลลาเจน และซองกาแฟ ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับแจ้งเบาะแสการโพสต์ซื้อ-ขายยาเสพติดในลักษณะคล้ายกับยาอีรูปแบบใหม่บรรจุมาในซองคอลลาเจน ผ่านแอปพลิเคชันติ๊กต๊อก ตนจึงสั่งการให้สำนักงานปราบปรามยาเสพติด ตรวจสอบชื่อบัญชีผู้ใช้ติ๊กต็อกดังกล่าว และพบว่ามีการโพสต์จำหน่ายยาเสพติดลักษณะคล้ายยาอี และเคตามีน บรรจุในซองเครื่องดื่มเกลือแร่ ซองเครื่องดื่มคอลลาเจน และซองกาแฟสีดำ โดยโพสต์แจ้งเบอร์โทรศัพท์และ WhatsApp ของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อใช้สำหรับติดต่อซื้อ-ขาย และพบว่ามีสมาชิกบัญชีติ๊กต็อกเข้ามาติดต่อขอซื้อทั้งคนไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โดยจำหน่ายในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำในราคาซองละ 1,500 บาท ราคาส่งซองละ 1,200 บาท แต่ยังไม่มีบริการจัดส่งเข้ามาในประเทศไทย

นายวิชัย กล่าวว่า ในช่วง 2- 3 ปี ที่ผ่านมาเราพบยาเสพติดประเภท club drug หรือยาเสพติดที่ใช้ในสถานบันเทิง ซึ่งประกอบด้วย ยาอี (ecstacy) และ ยาเค (ketamine) เป็นส่วนใหญ่ ถูกนำมาขายในรูปแบบการบรรจุใส่ซอง เช่น ซองกาแฟ หรือในกรณีนี้พบเป็นซองคอลลาเจน โดยเป็นรูปแบบของการปกปิดอำพรางของนักค้ายาเสพติด

ยาเสพติดที่บรรจุซองขายในลักษณะนี้มักเป็นการรวมของยาเสพติดประเภท club drug หรือวัตถุออกฤทธิ์หลายประเภทรวมกัน ซึ่งการที่ไม่รู้ส่วนผสมและการใช้ยาเสพติดหลายประเภทพร้อมกันยิ่งอันตราย เช่น เคยปรากฎในกรณี ยาเคนมผง ซึ่งเป็นการนำวัตถุออกฤทธิ์กลุ่มยานอนหลับไปบดเป็นผง และผสมกับยาเสพติดส่งผลให้ผู้ใช้เสียชีวิตจากการใช้ยาเสพติดดังกล่าว

จึงขอแจ้งเตือนภัย ยาเสพติดไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนอย่ายุ่งเกี่ยวจะดีที่สุด ในส่วนของ ป.ป.ส.ได้มีการติดตามเฝ้าระวังและตรวจสอบบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่มีพฤติการณ์โพสต์จำหน่ายยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการโพสต์โฆษณาจำหน่ายยาเสพติด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 137 ผู้ใดโฆษณาเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ หรือวัตถุออกฤทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวิชัยฯ ย้ำว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเร่งดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 124 หากพบว่าผู้ประทำความผิดเป็นคนไทย แม้การกระทำนั้นจะเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักร ผู้นั้นจะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักร ซึ่งจะมีการขยายผลการสืบสวนจับกุมผู้บงการที่เกี่ยวข้อง และจะต้องถูกยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติดต่อไปด้วย