อ้างช่วยชาติ ผลสอบแก๊งอุ้มชาวจีนรีดเงิน

View icon 45
วันที่ 19 เม.ย. 2566 | 04.10 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้ ตำรวจทยอยนำผู้ต้องหาคนแรกที่จับกุมได้ หลังก่อเหตุอุ้มชาวจีนเรียกเงินค่าไถ่ 4 ล้านบาท ไปขออำนาจศาลฝากขัง ระหว่างควบคุมตัวผู้ต้องหา ให้การอ้างว่าทำไป เพราะอยากช่วยเหลือประเทศชาติ

อ้างช่วยชาติ ผลสอบแก๊งอุ้มชาวจีนรีดเงิน
ระหว่างที่นายณัฐภัทร หรือ กบ ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมกันลักพาตัว นายหวัง ผู้เสียหายชาวจีน เรียกเงินค่าไถ่ 4 ล้านบาท ถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ก่อเหตุจริง มีนายกาย ซึ่งเป็นแฟนกับน้ำเพชร เป็นคนสั่งการ แต่น้ำเพชรไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นได้ข้อมูลมาว่า ผู้เสียหายคนนี้ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ด้วยความอยากช่วยเหลือประเทศชาติ จึงร่วมมือก่อเหตุด้วย

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ประกอบด้วย นายธนายุทธ หรือ โจ ที่ร่วมอุ้มตัวผู้เสียหายจากโรงแรม ย่านถนนหลังสวน ขึ้นรถไปที่หัวหิน, นางสาวสริตา หรือ ตา เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจากผู้เสียหาย เกือบ 4 ล้านบาท, นางสาวเพชรลดา หรือ น้ำเพชร อดีตผู้เข้าประกวดนางงาม และนายศุภพล หรือ กาย แฟนหนุ่ม รวมทั้ง นายณัฐพงษ์ หรือ จูน ยังถูกคุมตัวไว้ที่ สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างรอการสอบสวนขยายผล เพื่อยืนยันกระทำผิดของแต่ละคน ก่อนจะนำตัวไปส่งฝากขังต่อศาลต่อไป

ขณะเมื่อวานนี้ มีเพื่อนของน้ำเพชร เดินทางไปเยี่ยมที่ สน.ลุมพินี พร้อมบอกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเพื่อนจะร่วมก่อเหตุ เชื่อทั้งหมดเป็นแผนของกาย แฟนใหม่ หรือที่เพื่อน ๆ เรียกว่า บอส ที่หึงหวง กลัวว่าน้ำเพชรจะกลับไปคบกับผู้เสียหาย ประกอบกับมีปัญหาด้านการเงิน จึงวางแผนอุ้มรีดเงินดังกล่าว

ส่วนทนายความของน้ำเพชร ได้เข้าเยี่ยมลูกความ ก่อนกลับออกมาบอกว่า น้ำเพชรยังมีสภาพจิตใจและกำลังใจดี กินได้ นอนหลับ ไม่มีความเครียด ตอนนี้ต้องให้ตำรวจทำคดีไปก่อน ส่วนตนเองและทีมทนายความจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแก้ต่างพิสูจน์ความจริงให้ลูกความ พร้อมกันนี้ยังได้ปฏิเสธข่าวที่ "น้ำเพชร" ให้การสารภาพ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แต่ยังเปิดเผยรายละเอียดทางคดีไม่ได้มาก และยอมรับยังไม่ได้พูดคุยเรื่องการยื่นขอประกันตัว

ออกหมายจับเพิ่มอีก 6 คน คดีอุ้มคนจีนเรียกค่าไถ่ 1.8 ล้านบาท
ส่วนอีกคดีที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่คนจีนและคนไทยร่วมกันอุ้มชาวจีน ไปเรียกค่าไถ่ 1.8 ล้านบาท ตอนนี้ตำรวจจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดได้แล้ว 3 คน เมื่อคืนนี้ตำรวจนครบาล มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เงิน 1.8 ล้านบาทนั้น เป็นหนี้สินที่ผู้เสียหายติดค้างกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางผู้เสียหายเคยมีคดีความ ต้องการทนายว่าความ จึงขอความช่วยเหลือจากคนกลุ่มนี้ ด้วยการกู้ยืมเงิน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ

สำหรับคดีนี้ ตำรวจมีข้อมูลกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดจำนวน 14 คน ออกหมายจับเพิ่มได้อีก 6 คน และยังเหลืออีก 5 คน ที่อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวตน ก่อนจะร้องขอหมายจับต่อศาลเพิ่มเติม