แม่จีจี้ เผย ติดต่อกับพ่อแม่อิคคิว นักเรียนเตรียมทหาร ตลอด และพ่อแม่อิคคิวขอโทษ และขออโหสิกรรมแล้ว

แม่จีจี้ เผย ติดต่อกับพ่อแม่อิคคิว นักเรียนเตรียมทหาร ตลอด และพ่อแม่อิคคิวขอโทษ และขออโหสิกรรมแล้ว มั่นใจ เรื่องนี้ไม่มีบุคคลที่ 3 แน่นอน เพราะรับรู้มาตลอดว่าลูกสาวถูกทำร้าย ระบุ พ่อแม่อิคคิว ยอมรับ ลูกชายเป็นคนอารมณ์รุนแรง และคุมลูกชายไม่อยู่

วันนี้ 20 เมษายน 2566 ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา สื่อมวลชนต่างมารอทำข่าวการเดินทางมารับศพจีจี้ สุพิชชา และอิคคิว ภูมิพัฒน์ โดยแม่ของ จีจี้ สุพิชชา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเองยังติดใจว่าทำไมพ่อของฝ่ายชายให้ลูกพกปืน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนเองรับรู้ว่าลูกสาวถูกทำร้าย และลูกสาวได้เลิกกับผู้ชายคนนี้ไปแล้ว 1 ครั้ง และกลับมาคบกันอีกครั้ง ซึ่งตนเองได้ห้ามลูกแล้ว แต่ลูกไม่ฟัง หลังจากที่ลูกกลับมาคบกัน ตนเองก็ทำได้แค่คอยถาม แต่ลูกก็ไม่ยอมบอกความจริงลักษณะเหมือนกับว่ากลัวแม่จะเป็นห่วง  แต่ว่าเพื่อนของลูกจะรู้

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างตนเอง และครอบครัวของ อิคคิว ภูมิพัฒน์ ตนเองและแม่ของอิคคิวได้ติดต่อกันตลอด และมีการพูดคุยกันเรื่องไม่อยากให้ลูกกลับมาคบกัน แต่เพราะลูกเป็นเด็กดื้อทั้ง 2 คน บวกกับด้วยความที่ทั้งคู่ยังเด็ก สาเหตุที่ตนเองไม่อยากให้จีจี้คบกับอิคคิว เพราะอิคคิวเป็นคนอารมณ์รุนแรง และชอบยิงปืน ซึ่งอิคคิวก็ฝึกยิงปืนบ่อยๆ โดยที่มีจีจี้ไปด้วย ตนเองก็กลัวว่าสักวันจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ และเคยเตือนลูกไปแล้ว

เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองได้พูดคุยกับทางครอบครัวของอิคคิวแล้ว แต่รายละเอียดยังไม่ได้คุยกัน เพราะขอทำงานศพลูกให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งทางครอบครัวของอิคคิวก็ขอโทษและขออโหสิกรรม ซึ่งตนเองเชื่อว่า ครอบครัวของอิคคิวก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้น ในความรู้สึกของคนเป็นแม่ เราก็เป็นแม่ และทางครอบครัวของเขาก็สูญเสียลูกชายเหมือนกัน วันเกิดเหตุตนเองไปถึงที่คอนโดก่อน และครอบครัวของอิคคิวตามมาทีหลัง แต่ระหว่างนั้นก็มีการโทรหากันตลอด ตั้งแต่คืนก่อนหน้านั้นแล้ว หลังจากที่ตนเองติดต่อจีจี้ไม่ได้ ผ่านไปหลายชั่วโมงลูกยังไม่ตอบไลน์ จึงเริ่มเอะใจและตอนเที่ยงก็เลยขับรถมาที่คอนโด ซึ่งตนเองก็ได้คุยกับแม่ของอิคคิว แม่ของอิคคิวเองก็บอกว่า อิคคิวก็หายไปเหมือนกัน

"เรื่องนี้จริงๆก็สูญเสียทั้งสองคน ฝั่งเราเราก็เสียใจ ฝั่งเขาเขาก็เสียใจ เราก็พยายามห้ามลูกเราแล้ว ตอนนี้มันก็เลยเหมือนพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ต่างคนต่างก็ไปส่งลูกให้ไปขึ้นสวรรค์"

ส่วนตัวแม่เชื่อว่า เรื่องนี้ค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่มีบุคคลที่ 3 เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน เพราะปกติก็ทะเลาะกันแบบนี้อยู่แล้ว ส่วนสาเหตุก็อาจจะมีหึงหวงบ้าง แต่โดยปกติอิคคิวเป็นคนอารมณ์ร้อนตามประสาวัยรุ่น เท่าที่ตนเองทราบ คือ เวลาอิคคิวโมโหจะมีอารมณ์รุนแรง ซึ่งทางครอบครัวของอิคคิวเอง ก็ยอมรับว่าลูกชายเป็นคนที่อารมณ์รุนแรง บางครั้งพ่อและแม่ของอิคคิว ก็ยังควบคุมลูกตัวเองไม่อยู่ เพราะอาจจะเลี้ยงลูกตามใจ ก็เลยทำให้ควบคุมลูกไม่อยู่

ขณะที่พ่อเลี้ยงจีจี้ เผยว่า ทั้ง 2 ครอบครัว ไม่ได้มีการโกรธเกลียดอะไรกัน เพียงแต่ว่า ลูกคบกันแล้วมันไม่โอเค ซึ่งตอนนั้นที่รู้ว่าเลิกกันรอบแรก ทั้งครอบครัวก็ยินดีเหมือนลูกได้หลุดพ้นแล้ว แต่พอทั้งคู่ได้กลับมาคบกัน ซึ่งเราเองก็ไม่อยากให้เขากลับมาคบกัน

สื่อมวลชนได้ติดต่อสอบถามไปยัง พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงประเด็นที่ทางครอบครัวของจีจี้ สุพิชชา ยังคงคาใจในประเด็นเรื่องอาวุธปืน โดยเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตามหลักแล้วจะต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียดก่อนว่า เจ้าของปืนกระบอกนี้รู้เห็นหรือทราบว่านายภูมิพัฒน์จะเอาปืนมาใช้หรือไม่ หากสอบสวนแล้วทราบว่าปืนที่นายภูมิพัฒน์เอามาใช้ถูกขโมยมาก็จะไม่มีความผิด แต่ถ้าหากพบว่า เจ้าของปืนยินยอมให้นำปืนไปใช้หรือมีส่วนรู้เห็นสนับสนุน ก็มีความผิดฐานสนับสนุนให้ก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งตรวจสองเรื่องนี้แล้ว ขณะนี้รอการสอบสวนอย่างชัดเจน แล้วจะแถลงแจ้งให้ทราบอีกครั้ง