เส้นด้าย แจง บช.สอท.เล่นพนันเสียเงิน 25 ล้านบาท

View icon 59
วันที่ 25 เม.ย. 2566 | 11.22 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมากอยู่ 3 คน ที่วันนี้ออกมาเคลื่อนไหว คนหนึ่งคือ "สอดอ สไตล์" หรือ "เส้นด้าย" ที่ทำคลิปตีแผ่เรื่องที่เล่นพนันเสียเงิน 25 ล้านบาท ที่จะไปพบตำรวจเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง อีก 2 คน ก็คือ นายชูวิทย์ และ ทนายษิทรา ที่แลกหมัดผลัดกันโพสต์แฉแสดงความไม่ธรรมดาของอีกฝ่าย

เส้นด้าย แจง บช.สอท.เล่นพนันเสียเงิน 25 ล้านบาท
เริ่มกันที่เจ้าของช่องยูทูบ "สอดอ Style" หรือ นางสาวพิมพ์ลดา แววไธสง หรือ "เส้นด้าย" ที่เช้าวันนี้ตัดสินใจไปพบ พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ถึงที่มาที่ไปของการเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ จนสูญเงินไปถึง 25 ล้านบาท ว่าเป็นเรื่องจริง หรือ แต่งขึ้นมา เงินที่เอาไปเล่นมีที่มาที่ไปอย่างไร และเล่นพนันกับเว็บฯ หรือ แอปฯ ใด

ระหว่างที่ "เส้นดาย" เดินไปขึ้นลิฟต์ ได้ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า ได้รับหมายเรียกในฐานะพยานทั้งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI และตำรวจไซเบอร์ ยอมรับว่ายังไม่ทราบ ว่าเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำในประเด็นใดบ้าง แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และไม่รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า สำหรับประเด็นที่ DSI จะเรียกสอบปากคำ คือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง "เส้นด้าย" กับ นายแทนไท ณรงค์กูล และ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท รวมถึงเรื่องที่นำเงินไปเล่นพนันตามที่ไลฟ์สดชี้แจงแฟนคลับ เช่นว่า เล่นที่ไหน กับใคร โอนเงินไปเล่น หรือ นำเงินสดไปเล่นอย่างไร

ชูวิทย์-ทนายตั้ม ผลัดกันโพสต์แฉอีกฝ่าย 
อีกความเคลื่อนไหวที่ปะทะต่อเนื่องกันมาตั้งแต่วันเสาร์ ที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความเรื่องที่มีตำรวจท่องเที่ยวไปช่วยยกกระเป๋าเดินทางให้กับ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และลูกความ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

พอมาวันอาทิตย์ ทนายตั้ม เอาบ้างโพสต์คลิปชูวิทย์ฝากลูกชายเข้าเป็นทหารกับทหารยศใหญ่ พร้อมเหน็บแนมเรื่องการแอบถ่าย และท้าให้ตรวจเส้นทางการเงินของตนเอง เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับการพนันแน่นอน

ชูวิทย์ ตอบกลับแบบไม่แยแส ว่าเรื่องดังกล่าวสื่อเล่นไปนานแล้ว แถมยังเป็นคลิปเก่าเมื่อ 10 ปีก่อน ไม่ใช่ความลับอะไร ก่อนจะเริ่มยกใหม่ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง ทนายตั้ม กับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าดูสนิทสนมกันมาก ซึ่งล่าสุดเพิ่งโพสต์เพิ่มเติมเมื่อช่วง 08.00 น. ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า ภาพนี้ภาพใหม่ ไม่ใช่ภาพเก่า

เอาเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์นี้ก่อน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า สนิทกับ ทนายตั้ม จริง เพราะเคยทำงานร่วมกัน เคยขอคำปรึกษาด้านกฎหมายในหลายคดี การถ่ายภาพคู่กันนั้นเป็นเรื่องปกติ และไม่ว่าใครถ้าจะขอถ่ายรูป หรือ นำไปโพสต์ ตนเองไม่ขัดข้องเพราะเป็นคนสาธารณะ เพียงแต่คน ๆ นั้น ก็ต้องรับผิดชอบไป ขณะเดียวกัน ทนายตั้ม ก็ไม่ใช่คนเดียวที่สนิทด้วย อย่าง นายชูวิทย์ ก็สนิทเช่นกัน เพราะตนเองเป็นตำรวจ จึงต้องรู้จักกับทุกฝ่าย แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อรู้จักกันแล้ว จะทำผิดกฎหมายอย่างไรก็ได้ ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 คน "จะไม่ขอเข้าไปยุ่ง"

ส่วนเรื่องประเด็นที่มีตำรวจท่องเที่ยวไปรับ ทนายตั้ม ส่วนตัวเห็นว่าไม่ถูกต้อง ยืนยันว่าไม่เคยสั่ง และการที่ นายชูวิทย์ จะไปยื่นหนังสือให้ตรวจสอบเรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องดี ที่จะทำไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

และเมื่อ 11.00 น. ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ ก็ทำตามที่โพสต์ในเฟซบุ๊ก ไปยื่นหนังสือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบกรณีคลิปตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวก ทนายตั้ม ว่าขณะนั้นเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่หรือไม่ ใครสั่งให้ไปอำนวยความสะดวก รวมถึงตั้งข้อสังเกตตอนที่ ทนายตั้ม และครอบครัวเดินทางกลับเข้าประเทศ นาฬิกาหรู และกระเป๋าแบรนด์เนม ซื้อมาจากที่ใด มีการเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งก็มีตัวแทนรับเรื่องดังกล่าวไว้ดำเนินการ