โจรมืออาชีพ! ย่องเบางัดตู้เซฟ กวาดเงิน 2 ล้านบาท จ.สมุทรปราการ

View icon 695
วันที่ 26 เม.ย. 2566 | 16.42 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - โจรมืออาชีพ ย่องเบาเข้าบ้านหรู ยกงัดตู้เซฟกวาดทรัพย์สินกว่า 2 ล้านบาท หลบหนีลอยนวล

วงจรปิดจับภาพคนร้ายเป็นชายปิดบังใบหน้า ปีนรั้วกำแพงเข้ามาในบ้านพักหลังหนึ่ง ก่อนใช้เวลาเข้าไปสำรวจภายในบ้านประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเดินกลับออกไป หลังจากนั้นวันเดียวกัน คนร้ายคนเดิมกลับเข้ามาบ้านหลังนี้อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาก่อเหตุร่วม 4 ชั่วโมง ก่อนจะหลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาแล้ว

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุดังกล่าว พบเจ้าของบ้านได้พาไปสำรวจชี้จุดที่ถูกคนร้ายก่อเหตุ รวมถึงจุดที่เธอติดตั้งและฝังน็อตกับตู้เซฟไว้กับพื้นห้องนอน เพื่อป้องกันการยกตู้เซฟ ยังมีร่องรอยไหม้จากสะเก็ดไฟที่คนร้ายใช้เครื่องมือตัดตู้เซฟ จนพื้นบ้านเสียหาย พร้อมเล่าว่าวันเกิดเหตุตนเองไม่อยู่บ้าน ไปต่างจังหวัด ซึ่งปกติแล้วจะมีแม่บ้านคอยเข้ามาทำความสะอาด แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นจังหวะที่แม่บ้านป่วยพอดี จึงไม่ได้เข้ามาทำความสะอาด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา แม่บ้านหายดี เข้ามาทำความสะอาด ก็พบความผิดปกติหลายอย่าง คือ ประตูครัวหลังบ้านไม่ได้ล็อก ส่วนภายในบ้านก็พบว่ามีการรื้อค้น และตู้เซฟภายในห้องนอนก็ถูกงัด จนทรัพย์สินหายไปหลายรายการ ก่อนรีบโทรมาแจ้งตนเอง

ยอมรับว่าพอมาถึงบ้าน ก็ถึงกับเข่าทรุด เพราะคนร้ายงัดตู้เซฟเอาทรัพย์สินทั้งหมดไป อาทิ นาฬิกาแบรนด์เนม เครื่องประดับเพชร ทองคำ และอื่น ๆ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท โดยใช้เวลาในการลงมือก่อเหตุและอยู่ในบ้านหลังนี้กว่า 4 ชั่วโมง จึงมั่นใจว่าคนร้ายเป็นมืออาชีพ และเตรียมการมาอย่างดี เพราะคนร้ายได้ใช้ความร้อนในการเจาะตู้เซฟ และยังเอาฮาร์ดดิสกล้องวงจรปิดในบ้านไปด้วย

หลังเกิดเหตุ ตนเองก็ได้ไปหากล้องวงจรปิด ก่อนไปพบคนร้ายเข้ามาก่อเหตุ ก่อนนำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.บางปู พร้อมวอนตำรวจช่วยติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว อีกทั้งยังทราบว่า คนร้ายไม่ได้ก่อเหตุแค่บ้านของตนเองบ้านเดียว ยังก่อเหตุบ้านอื่นด้วย และคาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายมากกว่า 10 หลัง
 
ด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งก็สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบและแกะรอยคนร้าย โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ แต่ก็ติดปัญหาสำคัญคือ ระยะเวลาก่อเหตุของคนร้าย พบว่าก่อเหตุคือวันที่ 10 แต่ผู้เสียหายทราบเรื่องวันที่ 23 ล่วงเลยเวลามาหลายวันแล้ว ทำให้การตรวจสอบกล้องวงจรปิดบางจุดทำได้ยาก เนื่องจากข้อมูลถูกบันทึกทับหรือลบไปแล้ว แต่ตนเองกำชับฝ่ายสืบสวนแล้ว ให้เร่งดำเนินการไล่ล่าตัวคนร้ายรายนี้ให้ได้โดยเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง