อนามัยโลกเตือนทั่วโลกติดตามโอมิครอนลูกผสม 3 สายพันธุ์ XBB

อนามัยโลกเตือนทั่วโลกติดตามโอมิครอนลูกผสม 3 สายพันธุ์ XBB

View icon 162
วันที่ 30 เม.ย. 2566 | 09.52 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
อนามัยโลกเตือนทั่วโลกติดตามโอมิครอนลูกผสม 3 สายพันธุ์ XBB ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ ห่วงดื้อต่อยาโมลนูพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด ในลักษณะเช่นเดียวกับที่เกิดกับเชื้อเอชไอวีที่ดื้อต่อยาต้านไวรัสในอดีต

โควิด-19 วันนีี้ (30 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล เปิดเผยถึงกรณีองค์การอนามัยโลกแถลงเตือนให้ทั่วโลกเฝ้าติดตามโอมิครอนลูกผสม 3 สายพันธุ์คือ XBB.1.5, XBB.1.16 และ XBB.1.9 อย่างใกล้ชิด ดร.มาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าด้านเทคนิคขององค์การอนามัยโลกสำหรับโควิด-19 ได้แถลงอัปเดตเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม โดยเน้นที่โอมิครอน 3 สายพันธุ์ลูกผสม ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการแพร่ระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้

ดร. เดโบราห์ เบิร์กซ์ (Deborah Birx)  อดีตแพทย์ผู้ประสานงานโควิด-19 ของทำเนียบขาวในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เชื่อว่าในที่สุดแล้วโควิด-19 จะกลายพันธุ์ดื้อต่อยา “แพกซ์โลวิด (Paxlovid)” อันอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างรวดเร็ว

องค์การอนามัยโลก ย้ำว่าการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดมีความสำคัญสูงสุดในการติดตามการแพร่กระจายของโอไมครอนตระกูล XBB เพื่อสามารถปรับมาตรการด้านสาธารณสุขในแต่ละประเทศได้ทันท่วงทีหากเกิดแพร่ระบาดอย่างฉับพลัน ในแต่ละสัปดาห์ยังมีผู้คนหลายล้านคนกำลังติดเชื้อ (ซ้ำ) โดยมีผู้ป่วยหลายแสนคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และอีกหลายพันคนที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายขณะนี้ องค์การอนามัยโลกยังคงทำงานอย่างแข็งขันเพื่อสนับสนุนและแนะนำประเทศต่าง ๆ ในความพยายามที่จะต่อสู้กับโควิด-19

จากการถอดรหัสพันธุกรรมโควิด-19 ทั้งจีโนมในประเทศสหรัฐอเมริกาพบการระบาดของโอไมครอนสายพันธุ์ลูกผสม XBB 3 สายพันธุ์ย่อย คือ XBB.1.5, XBB.1.16 และ XBB.1.9.1 คิดเป็นร้อยละ 68.8,11.7 และ 9.0 โดยพบการระบาดรวมคิดเป็นร้อยละ 89.5 ของโควิดทุกสายพันธุ์ที่ระบาดภายในประเทศ

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์  รพ. รามาธิบดีได้นำรหัสพันธุกรรมโควิด-19 ทั้งจีโนมในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 15 มี.ค.-29 เม.ย.66 ที่มีการอัปโหลดขึ้นบนฐานข้อมูลโควิดโลก จีเสส (GISAID) จากหลายหน่วยงาน มาวิเคราะห์พบการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม ตระกูล XBB สามสายพันธุ์ย่อย คือ XBB.1.5, XBB.1.16 และ XBB.1.9.1 คิดเป็นร้อยละ 23, 16 และ 19 โดยพบการระบาดรวมคิดเป็นร้อยละ 58 ของโควิดทุกสายพันธุ์ที่ระบาดภายในประเทศ

644dda8a5c5bb6.87002447.jpg

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ระบุด้วยว่า เมื่อมีการระบาดของโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสมตระกูล XBB สามสายพันธุ์ย่อย คือ XBB.1.5, XBB.1.16 และ XBB.1.9.1 เพิ่มขึ้นย่อมหมายถึง
1. วัคซีนรุ่นแรกผลิตจากไวรัสอู่ฮั่นและรุ่นที่สองผลิตจากไวรัสสองสายพันธุ์ (bivalent vaccine booster) จะด้อยประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
2. จะมีแอนติบอดีสำเร็จรูปเพียงชนิดเดียวคือ โซโทรวิแมบ (sotrovimab) ที่สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของโอมิครอน XBB.1.5, XBB.1.16 และ XBB.1.9.1 ในร่างกายผู้ติดเชื้อ
3. จะมีการใช้ยาต้านไวรัส โมลนูพิราเวียร์ แพกซ์โลวิด (Molnupiravir & Paxlovid) เพิ่มขึ้นอันอาจส่งผลให้เกิดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดื้อยาขึ้นได้ในลักษณะเช่นเดียวกับที่เกิดกับเชื้อเอชไอวีที่ดื้อต่อยาต้านไวรัสในอดีต