ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ พร้อมหารือกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจในภูมิภาค กับผู้นำสหรัฐฯ
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เปิดทำเนียบขาวต้อนรับประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ตามกำหนดการเยือนสหรัฐฯ เป็นเวลา 4 วัน ซึ่งนับเป็นผู้นำฟิลิปปินส์คนแรกในรอบกว่า 10 ปี ที่เดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยทาง 2 ฝ่ายมีการหารือกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจในภูมิภาค ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนที่มากขึ้น ซึ่งความร่วมมือนี้จะมุ่งเน้นที่การประสานงานทางทหาร ทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ อวกาศ และไซเบอร์สเปซ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งเครื่องบิน C-130 จำนวน 3 ลำ พร้อมเรือลาดตระเวนเพิ่มเติมไปยังฟิลิปปินส์ ขณะที่ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าจะยืนหยัดร่วมมือและสนับสนุนการปรับปรุงกองทัพฟิลิปปินส์ให้ทันสมัยขึ้น และปฏิบัติตามสนธิสัญญาป้องกันประเทศร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ - ฟิลิปปินส์ ในปี 2494 ที่ระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะช่วยปกป้องซึ่งกันและกันหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกโจมตีโดยบุคคลที่สาม
นอกจากนี้ ยังมีการหารือกันด้านเศรษฐกิจ โดยสหรัฐฯ มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการลงทุนในฟิลิปปินส์ในโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนจากเงินทุนภาครัฐและเอกชนกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุที่สำคัญของฟิลิปปินส์ พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ตกริด (Smart Grid) และพลังงานสะอาด ส่งเสริมการใช้งาน 5G รวมทั้งการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพทั่วฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ต่างสานสัมพันธ์กับทั้งสหรัฐฯ และจีน ซึ่งต่างแย่งชิงอิทธิพลในอินโดแปซิฟิก อย่างไรก็ตาม ผู้นำฟิลิปปินส์ยืนยันกับผู้สื่อข่าวบนว่า เขาจะไม่ยอมให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นเวทีในการแสดงอำนาจสำหรับปฏิบัติการทางทหาร
