อดีตผู้ใหญบ้าน แฉซ้ำ"อดีตพระคม"  เคยบวชที่วัดป่า  ใน จ.ราชบุรี มีประวัติฟ้องร้องกันเรื่องเอาเงินผ้าป่าเข้าบัญชีตัวเอง ก่อนจะหนีหายไป จนมาเป็นข่าวดัง

อดีตผู้ใหญบ้าน แฉซ้ำ"อดีตพระคม" เคยบวชที่วัดป่า ใน จ.ราชบุรี มีประวัติฟ้องร้องกันเรื่องเอาเงินผ้าป่าเข้าบัญชีตัวเอง ก่อนจะหนีหายไป จนมาเป็นข่าวดัง

View icon 2.7K
วันที่ 9 พ.ค. 2566 | 09.45 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
อดีตผู้ใหญบ้าน แฉซ้ำ "อดีตพระคม" เคยบวชที่วัดป่า  ใน จ.ราชบุรี เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีประวัติฉาว กรรมการวัดฟ้องร้องเรื่องเอาเงินผ้าป่าเข้าบัญชีตัวเอง ก่อนจะหนีหายไป จนมาเป็นข่าวดัง  


อดีตผู้ใหญบ้าน แฉซ้ำ อดีตพระคม  ( 9 พ.ค. 66 )   กรณีของอดีต “ พระอาจารย์คม ” หรือ พระวชิรญาณโกศล  หรือ พระคม อภิวโร แห่งวัดป่าธรรมคีรี จ.นครราชสีมา พระหนุ่มสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดัง กลายเป็นประเด็นร้อน ที่สะเทือนวงการสงฆ์อีกครั้ง หลังจากได้มีการยักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้าน  และมีเรื่องการการเสพเมถุน ในลักษณะชายรักชายกับเจ้าอาวาสวัดภายในกุฏิ

วันนี้ได้รับการเปิดเผยประวัติพระรูปนี้ซึ่งเคยบวชอยู่ที่วัดป่าพระธาตุเขาน้อย ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี จากนายสมศักดิ์  เอี่ยวเรลาเต่า อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน   ต.บ้านคา อ.บ้านคา ทราบว่า อดีตพระคม ได้มาบวชที่วัดแห่งนี้ ประมาณ 10 ปีได้แล้ว  ตอนนั้นทราบว่าอยู่ทางเพชรบุรี ที่ฟังมาจากพระผู้ใหญ่รู้ว่าเขาไปขอบวช แล้วทางพระผู้ใหญ่ไม่ยอมบวชให้เลยไม่รู้ว่าเป็นมาอย่างไร  แล้วก็มาหาอาจารย์ที่วัดนี้ท่านก็เลยบวชให้  หลังจากบวชแล้วตอนแรกก็มองว่าดี เรื่องการเทศน์ดี เมื่อก่อนหลวงปู่มาอยู่ญาติโยมมาฟังหลวงปู่ แต่พอเขามาแล้วญาติโยมหันมาฟังเขาหมดเลย เหมือนเทศแล้วเคลิ้มไปกับเขาด้วย 

ส่วนพฤติกรรมไม่ได้คลุกคลีเท่าไหร่นัก ถ้าคนมาไม่รู้ก็จะเหมือนเป็นเจ้าวัด และได้มีการจัดผ้าป่าเขาก็ไปแอบเปิดบัญชี และไปทำใบฎีกาทำเองหมดเลย  แค่อาจารย์ให้ตราวัดไปทำ  ส่วนแม่ของพระคมนั้นน่าจะเป็นอดีตพยาบาลเมื่อก่อนสมัยนั้นอยู่ที่ศูนย์อนามัยแม่และเด็ก ก็เหมือนจะมีคนมาหาเขาเรื่อย ๆ เหมือนเป็นการโปรโมทลักษณะนี้  ที่ทอดผ่าป่าเขาจัดการทำอะไรเองหมดเลย พระอาจารย์เจ้าอาวาสไม่ต้องยุ่งให้อยู่เฉย ๆ ส่วนเงินตอนนั้นตนเองไม่ได้เป็นกรรมการวัด แต่ทางกรรมการวัดว่าเงินไม่ได้เข้าบัญชีวัดเลย  ตอนหลังมีเรื่องฟ้องร้องกัน เขาฟ้องร้องอาจารย์และฟ้องกรรมการด้วยหาว่าดูหมิ่นเรื่องเงิน ทางกรรมการบอกว่าเงินนี้ตามหลักจะต้องเข้าบัญชีวัด แต่ไปเข้าบัญชีตัวเอง กรรมการก็เลยกล่าวหาว่าเหมือนกับเขาโกง จึงมีการฟ้องร้องกัน สรุปว่าทางชาวบ้านและวัดชนะ  เพราะตามหลักก็ต้องเป็นเงินบัญชีของวัด   

ช่วงกำลังฟ้องร้องกันอยู่ ทางชาวบ้านก็ไม่อยากให้อยู่ที่วัด ตอนแรกเขาไปสร้างกุฏิอยู่ด้านบนเขา  มีพระพุทธรูปที่ได้จัดพิธีหล่อพระไว้ด้วย หล่อเสร็จแล้วก็ขนย้ายเอาไปหมดเลย   ส่วนตัวเขาก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน  หลังจากนั้นก็มาขนของแล้วหายไปเลย  ช่วงที่อยู่วัดก็จะพูดว่าเดี๋ยวจะมีปรากฏการณ์ฝนจะตก  พอช่วงที่ยกช่อฟ้าก็ยังบอกอีกว่าเดี๋ยวจะมีฝนตกลงมาตกมาเป็นเม็ดพระธาตุ ส่วนตัวเองก็ไม่ค่อยเชื่อเพราะว่าเขาเพิ่งจะมาบวช  จะเป็นอาจารย์ก็ยังไม่ได้ เขาอาจจะมีอะไรในตัวที่ทำให้คนฟังเทศน์ฟังธรรมแล้วหลงใหลเชื่อ มาทำบุญกันเยอะ จากที่เขาไป 10 ปีแล้วไม่น่าเชื่อ ซึ่งเกิดจากความศรัทธาของคนเท่าไหร่ก็ยอม ส่วนที่นี่รู้กันหมดแล้วว่า ไปฟ้องพระอาจารย์ที่บวชให้ด้วย  เขายังทำกับวัดได้ ก็อุปัชฌาย์ที่บวชก็อยู่วัดอรุณนี้เอง สอบถามเจ้าคณะจังหวัดได้เพราะมีประวัติในการบวชอยู่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง