ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. และ พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและอาวุธสงคราม ห้วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 4-13 พ.ค. 66
กระทั่งวันที่ 11 พ.ค. 66 ชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามประจำ จ.ลำพูน,เชียงใหม่-ฮอด ร่วมกับ ตำรวจ กก.ปพ.บก.สส.ภ.5 ตำรวจ ตชด.33 เจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาป่าไม้แม่แจ่ม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออบหลวง เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 1 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ และ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ชม.14 (ห้วยโจ้) ร่วมกันจับกุม นายเกดา อายุ 46 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณลำห้วยในป่าสวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม ท้องที่หมู่ 6 ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
โดยบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แปรรูปไม้หวงห้าม พร้อมยึดของกลาง 1.ไม้หวงห้าม (ประดู่,เต็ง) จำนวน 12 ท่อน ไม้หวงห้าม (ประดู่) แปรรูป จำนวน 4 แผ่น/เหลี่ยม เลื่อยโซ่ยนต์ ยาบ้า และฝิ่น รวมทั้งยานพาหนะและอุปกรณ์ในการตัดไม้ และอยู่ในป่าตอนกลางคืน
เบื้องต้นพบว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฐาน “ทำไม้หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ทำการแปรรูปไม้,มีไม้หวงห้ามชนิดอื่นแปรรูปมีปริมาตรเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ มีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขาย”
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ฐาน “ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ ฐาน “มีเลื่อยโซ่ยนต์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” และประมวลกฎหมายยาเสพติด ฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ยาฝิ่นไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีนหรือยาบ้าโดยผิดกฎหมาย”
จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างจากนายทุนให้ตัดไม้แล้วแปรรูป ส่วนยาเสพติดที่พบเอาไว้เสพเวลาทำงาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่แจ่ม เพื่อดำเนินคดี และขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้องต่อไป
