เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ ตำรวจกองปราบปรามลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 39 จุดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหา เครือข่ายของสารวัตรซัว ได้อีก 30 คน ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่ารวมมากกว่า 7,000 ล้านบาท
ตำรวจกองบังคับการกองปราบปราม ปฎิบัติการ "ชัตดาวน์เครือข่ายอั้งยี่ มาเฟียพนันออนไลน์ เป็นต่อกรุ๊ป หรือ เครือข่ายสารวัตรซัว ครั้งที่ 4" นำกำลังกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 39 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาอั้งยี่, ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันฯ, สมคบฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน ได้เพิ่มเติมอีกจำนวน 30 ราย ทำให้ตัวเลขขณะนี้จากปฏิบัติการทั้ง 4 ครั้งที่กวาดล้างเครือข่ายสารวัตรซัว สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 57 ราย คงเหลือผู้ต้องหาบางส่วนที่หลบหนีต่างประเทศ 19 ราย พร้อมตรวจยึดทรัพย์สิน เงินสด จํานวน 33 ล้านบาท, ที่ดินจํานวน 1,298 ไร่ มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท บัญชีธนาคาร 236 บัญชี มูลค่า 760 ล้านบาท, รถยนต์หรู 15 คัน มูลค่าประมาณ 52,844,000 บาท และเหรียญสกุลเงินดิจิทัลกว่า 100 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดรวมกว่า 7,000 ล้านบาท
จากปฏิบัติการที่ผ่านมาจะพบว่าเครือข่ายสารวัตรซัวนั้น ถือว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ เมื่อมองผลการดำเนินการในภาพรวมจะเห็นว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร
ซึ่งเมื่อวานนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการจับกุม นำโดย พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เครือข่ายของสารวัตรซัวนั้นถือเป็นเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่ของประเทศ มีการก่อตั้งบริษัทรวมกว่า 61 บริษัท ในจํานวนนี้ มี 7 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ เมื่อตรวจสอบพบว่าบริษัทไม่มีกำไรแต่ถือครองทรัพย์สินมากเกือบหมื่นล้าน นำเงินเข้าสู่ระบบบัญชีม้าก่อนโอนเข้าบัญชีคนในเครือข่ายเพื่อแปลงเป็นทรัพย์สิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัดจันทบุรี กาญจนบุรี เกาะกูด, เกาะทะลุ, เกาะสมุย และจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ตำรวจติดตามยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากเครือข่ายเว็บพนันทั้งหมด ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ดำเนินตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินต่อไป