เลือกตั้ง 2566 : "พริษฐ์" เชื่อมี สว. 60 คน โหวตให้ "พิธา" เป็นนายกรัฐมนตรี

เลือกตั้ง 2566 : "พริษฐ์" เชื่อมี สว. 60 คน โหวตให้ "พิธา" เป็นนายกรัฐมนตรี

View icon 897
วันที่ 17 พ.ค. 2566 | 11.59 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“ไอติม ” เชื่อเสียง สว. 60 คน โหวตหนุน “พิธา” เป็นนายกฯ ชี้งดออกเสียงไม่เท่ากับปิดสวิตช์ตัวเอง มั่นใจหากเข้าใจตรงกันจะเคารพเสียงของประชาชน
   
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ว่าที่ สส.พรรคก้าวไกล กล่าวถึง อำนาจ สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ว่ายืนยันตามหลักการ ให้สนับสนุนและโหวตนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชน แม้จะไม่ได้ชื่นชอบและนิยมพรรคก้าวไกล แต่ต้องยึดหลักการประชาธิปไตย และเคารพเสียงของประชาชนที่เข้าคูหาเลือกตั้ง นอกจากนี้ หากหยิบยกคำอภิปรายของ สว.หลายคน เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์ลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ร่างที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกอำนาจ สว. ในการเลือกนายกฯ เห็นว่ามี สว.กว่า 60 คนที่ลงมติเห็นชอบให้ปิดสวิตซ์ สว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

นายพริษฐ์ ระบุว่า ตนเองพยายามจะชี้ให้เห็นว่า สว. ไม่ควรใช้อำนาจนี้ในการจัดตั้งรัฐบาล แม้ สว.ที่ยังไม่เคยลงมติเห็นชอบในการยกเลิกอำนาจตัวเอง จึงอยากบอก สว. เหล่านั้น ว่าหากอยากเห็นประเทศไปต่อได้ โดยไม่เจอทางตัน หรือความขัดแย้งในบ้านเมือง ก็ต้องสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากรัฐบาลเสียงข้างมาก เพราะการสนับสนุนนายกฯ ที่มาจากเสียงข้างน้อย ท้ายที่สุดก็จะไม่สามารถบริหารประเทศได้ และไม่สามารถผ่านงบประมาณหรือกฎหมายได้

ส่วนการโน้มน้าว สว.อาจจะง่ายกว่าการหาเสียง สส. มาเติมหรือไม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ก้าวไกลทำทั้งสองส่วน และหากพูดถึงตัวเลขปัจจุบัน ในบรรดาพรรคที่กำลังพูดคุยกันอยู่เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ตัวเลขจะอยู่ที่ 310 เสียง การบริหารประเทศก็จะยังถือว่ามีเสถียรภาพ แต่หากจะมองว่าต้องมาจากตัวเลข 376 เสียง ซึ่งเป็นกึ่งหนึ่งของสภา ตัวเลขก็จะมาจาก 2 ส่วน คือ จาก สว. และ สส. หากลงลึกไปแล้วเสียงของ สว.60 กว่าคนที่เคยปิดสวิตช์ ก็เพียงพอ ที่จะโหวตได้ นอกจากนี้ตนยังเห็นท่าทีของสมาชิกพรรคอื่น ที่แม้จะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลก็ยังจะโหวตให้นายพิธา

“ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลยินดีที่จะพูดคุยถึงนโยบายเพื่อให้ สว.คลายความกังวล เห็นว่าวันที่ 23 พ.ค.2566 นี้ จะมีการประชุม สว. ทางพรรคก็ยินดีที่จะเข้าไปตอบคำถาม ยืนยันว่าไม่จำเป็นจะต้องให้ สว. เชื่อว่าก้าวไกลตอบโจทย์ประเทศมากที่สุด แต่สิ่งที่ต้องไม่ทำคือ การขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชน” นายพริษฐ์ ระบุ

ส่วนที่หลายคนมองว่าท่าทีของพรรคก้าวไกลตอนนี้เหมือนกับการขู่ สส. และจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ตามมา นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดว่าท่าทีของพรรคก้าวไกลเป็นไปในทางข่มขู่ และเรายินดีพูดคุยเปิดวงสนทนาในสิ่งที่ สว. กังวล และเวลาที่ตนพูดว่า สว.โหวตเลือกนายกที่ไม่ใช่เสียงข้างมากแล้วจะเกิดทางตันนั้น ไม่ใช่การข่มขู่แต่เป็นการพูดข้อเท็จจริง

ส่วนที่ สว.บางคนเลือกจะปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ก็เลือกจะไม่โหวตนายพิธาเป็นนายกนั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องการปิดสวิตช์ สว. คือ สว.ไม่ควรมาจากการแต่งตั้ง รวมถึงแทรกแซงกระบวนการเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการเลือกนายกฯ ควรมาจาก สส. ดังนั้น การใช้คำว่า ปิดสวิตช์ สว.ต้องมองออกเป็น 2 ส่วน คือการทำให้ สว.ไม่มีอำนาจในการเลือกนายกฯ เลย แต่ในเมื่อเสนอแก้ไขกฎหมายไปเท่าไรก็ไม่เคยผ่าน ทำให้ปิดสวิตช์ สว.ในความหมายของวันนี้ที่ยังมี ม.272 อยู่ คือการที่ สว. โหวตให้นายกฯ และรัฐบาลที่ครองเสียงข้างมาก

ขณะที่กรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ นายพิธา ทั้งเรื่องการถือหุ้นสื่อ / ม.112 เหมือนเป็นการพุ่งเป้าไปที่พรรคก้าวไกล จะมีผลต่อการจัดรัฐบาลหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยินดีเข้าไปพูดคุยอยู่แล้ว ทั้งพูดคุยในกรรมการที่ตั้งขึ้นมาและในที่ประชุมใหญ่ ซึ่งตนเองเข้าใจว่า มีข้อเท็จจริงบางส่วนที่ สว.เข้าใจคาดเคลื่อน เพราะฉะนั้นประเด็นทั้งคุณสมบัติของนายกฯ และนโยบายพรรค เราเชื่อว่าหาก สว.ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ก็จะเข้าใจ พร้อมยอมรับว่ายังมี สว.บางคนที่กังวลใจ แต่ก็มั่นใจว่าจะเข้าใจ และไม่ได้หวังให้มานิยมชมชอบพรรคก้าวไกล แต่ก็อยากให้ สว.เคารพเสียงของประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง