ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจเร่งหาสาเหตุเรือสปีดโบต พุ่งชนประภาคารใกล้กับท่าเรืออ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวและคนในเรือได้รับบาดเจ็บ 37 คน เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความประมาทของคนขับเรือ แต่ต้องรอผลการตรวจแอลกอฮอล์ด้วย
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ฉลอง จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้ไปตรวจสอบเรือสปีดโบตลำที่พุ่งชนประภาคารกลางทะเล ห่างจากท่าเรืออ่าวฉลอง ประมาณ 500 เมตร เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยว รวมทั้งคนขับเรือ ช่างเครื่องและไกด์นำเที่ยว ได้รับบาดเจ็บทั้งลำรวม 37 คน
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ชักลากเรือกลับเข้าฝั่ง และนำไปเก็บที่อู่เรือโคกตะโหนด ใกล้กับอ่าวฉลอง เพื่อเก็บหลักฐานต่าง ๆ ภายในลำเรือ หาสาเหตุที่เกิดขึ้น พบว่าบริเวณส่วนห้ว ด้านซ้ายของลำเรือ มีความเสียหายจากการพุ่งชนกับเสาเหล็กของประภาคาร ยาวประมาณ 2 เมตร 20 เซนติเมตร และทางด้านขวายาวประมาณ 1 เมตร แต่ในส่วนของระบบไฮโดรลิก สำหรับใช้ในการบังคับเรือ รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ยังทำงานตามปกติ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากความประมาทของคนขับเรือ หรืออาจจะหลับใน เพราะบริการนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ แต่ทั้งนี้จะต้องรอผลการตรวจแอลกอฮอล์ของคนขับเรือ รวมทั้งต้องสอบปากคำนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือขณะเกิดเหตุมาประกอบด้วย เพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานทางคดี
สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 37 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 21 คน ชาวคาซัคสถาน 9 คน ชาวไทย 4 คน ชาวฮ่องกง 1 คน ชาวจีน 1 คน ชาวยูเครน 1 คน ซึ่งแยกย้ายกันรักษาในโรงพยาบาล 7 แห่ง ที่จังหวัดภูเก็ต
และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เรือสปีดโบตลำที่เกิดอุบัติเหตุมี พ.ร.บ.คุ้มครองการรักษาค่ารักษาพยาบาลคนละ 15,000 บาท และผู้ประสบภัยยังได้ทำประกันอุบัติเหตุกับบริษัทประกันภัย คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล กรณีบาดเจ็บอีกคนละ 500,000 บาท
