ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ คลี่ปมข้อร้องเรียนเจ้าหน้าที่รัฐให้การช่วยเหลือ ปล่อยให้มีการนำเข้าหมูเถื่อน และทำเอกสารเท็จ สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท ติดตามกับ คุณสุธาทิพย์ ผาสุข
เอกสารชิปปิง ใบขนส่งสินค้า ใบเสร็จ ระบุข้อความแสดงราคาภาษีนำเข้า เป็นหลักฐานส่วนหนึ่งที่ นายอัจฉริยะ และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ยื่นแสดงและมอบให้กับ ดีเอสไอ เพื่อพิจารณารับตรวจสอบขบวนการทุจริตหมูเถื่อนเป็นคดีพิเศษ พร้อมดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง โดยการเรียกร้องครั้งนี้ ได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐหลายระดับเข้าไปเกี่ยวข้อง คอยให้ความช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 คน มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
ท่าเรือด่านแหลมฉบัง ด่านชายแดนจังหวัดมุกดาหาร ด่านสะเดา และ ด่านอรัญประเทศ เป็นพิกัดที่ถูกพาดพิง ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเส้นทางที่กลุ่มนายทุนใช้ลักลอบนำหมูเถื่อนเข้ามา โดยสำแดงเท็จอ้างผ่านสินค้าแช่แข็ง ซึ่งมียอดการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
พฤติกรรมและข้อมูลที่ถูกเปิดเผย มีคำอธิบายจากอธิบดีกรมศุลกากร ว่า เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยที่ผ่านมาได้ส่งสำนวนและประสานกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสกัดยับยั้งขบวนการทุจริต และได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่เกี่ยวข้องแล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปประมาณกลางเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับเรื่องราวขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายของกลุ่มนายทุนสีเทา โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ เปิดช่องให้มีการทุจริต จนทำลายโครงสร้างราคาหมูในประเทศที่เกษตรกรจะจำหน่าย และสร้างความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในอาหารของผู้บริโภค จะถูกรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เวลานี้ยังต้องรอการตรวจสอบหลักฐานและผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
