ไม่สสดหนุ่มเบนซ์หัวร้อนหลานนักการเมืองดัง ขับรถปาดหน้าชักปืนขู่คู่กรณีกลางถนน ได้รับการประกันตัวยังมีการโพสต์รูปปืนและข้อความในไอจีท้าท้ายข่มขู่ยิงคู่กรณี เพจดังขุดคลิปโชว์ปืนหน้าห้องฉุกเฉินในรพ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเมื่อวานนี้ (18 พ.ค.66 )ตำรวจได้จับกุมตัวนายสิทธิพัฒน์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุขับรถเบนซ์ปาดหน้าคู่กรณี จากนั้นได้ชักอาวุธปืนก๊อก 20 ลงมาข่มขู่ผู้เสียหาย บริเวณถนนเชียงใหม่-เชียงรายขาเข้าเมือง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พ.ค.66 ที่ผ่านมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังค้นบ้านพักในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่พบอาวุธปืนทั้งหมด 13 กระบอกซึ่งเป็นทั้งของพ่อนายสิทธิพัฒน์ ที่เป็นนักกีฬายิงปืน และ เป็นของนายสิทธิพัฒน์ผู้ต้องหาด้วย บางกระบอกมีทะเบียนถูกต้องและบางกระบอกเป็นชื่อผู้อื่นครอบครอง
ต่อมาช่วงบ่ายพ่อและแม่ได้พานายสิทธิพัฒน์ มามอบตัวที่ สภ.แม่ปิง ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะไม่พอใจที่ถูกคู่กรณีตะโกนต่อว่า ด้วยความกลัวว่าจะถูกทำร้ายจึงเอาอาวุธปืนออกมา อยากฝากขอโทษคู่กรณีและขอโทษสังคม
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา พกพาอาวุธปืนไปในเมือง ทางหรือที่สาธารณะในหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำให้คนอื่นตกใจกลัว ,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอาวุธปืนที่มีชื่อผู้อื่นครอบครองเตรียมเพิกถอนใบทะเบียนอาวุธปืน รวมของนายสิทธิพัฒน์ ผู้ต้องหาด้วย ก่อนให้ประกันตัวไป
ขณะเดียวกันทวิตเตอร์ Red Skull ได้มีการนำไอจีสตอรี่ของนายสิทธิพัฒน์ ผู้ต้องหาออกมาเผยแพร่ โดยระบุว่าหลังผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ได้โพสต์ภาพอาวุธปืนยาวพร้อมเขียนข้อความ ว่า”สุดท้ายหนีไปหาตำรวจ ตำรวจฝั่งกูจบนะ กูบอกตำรวจว่าถ้ามันจะเอากูเข้าคุกอ่ะกูจะยิงมึงลงหลุมก่อนแล้วกูค่อยเข้าไม่งั้นกูไม่เข้าฟรีหรอก(ปืนไรอยู่ครบ)ไอ่กากเอ้ยหนีอย่างหมาแล้วมาหาเรื่องกูก่อน
นอกจากนี้ยังมีคลิปที่ผู้ต้องหามีการโพสต์โชว์อาวุธปืนสั้นเหน็บเอวอยู่ขณะที่ไปรอพบหมออยู่หน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
หลังคลิปนี้ออกไปทำให้มีผู้คอมเม้นกันจำนวนมากถึงเหตุการณ์นี้และหวั่นไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะโรงพยาบาลซึ่งเป็นสถานที่ ที่ผู้คนเข้าไปรักษาตัวพบหมอจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามเช้านี้ทางโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวได้มีการเรียกประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและเตรียมหามาตรการป้องกัน และเตรียมจะเข้าแจ้งความกับหนุ่มเบนซ์รายนี้เพิ่มด้วย ซึ่งหากโรงพยาบาลมีการแจ้งความก็จะเป็นคู่กรณีรายที่ 3 เนื่องจากวานนี้มีนักศึกษาเข้าแจ้งความที่ สภ.แม่ปิงเพิ่อมอีก เพราะถูกผู้ต้องหาและพวกขับรถปาดหน้า ขู่ยิงทิ้งเมื่อวันที่ 4 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา