ลุ้นพรรคก้าวไกล ตั้งรัฐบาล 10 พรรค 316 เสียง

View icon 376
วันที่ 20 พ.ค. 2566 | 05.10 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เรียกว่าตัวเลขยังไม่นิ่ง สำหรับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะตอนนี้จาก 8 พรรค เพิ่มเป็น 9 พรรค และมีแนวโน้มจะได้พรรคชาติพัฒนากล้ามาเติมให้อีกสองเสียง ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ก็จะทำให้กลายเป็น 10 พรรคร่วมรัฐบาล 316 เสียงแล้ว

ลุ้นพรรคก้าวไกล ตั้งรัฐบาล 10 พรรค 316 เสียง
ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ มีองค์ประกอบจากพรรคไหนบ้าง ที่ยืนยันแล้ว คือ พรรคก้าวไกล 152 เสียง พรรคเพื่อไทย 141 เสียง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคไทยสร้างไทย 6 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย สังคมใหม่ เป็นธรรม และพรรคใหม่ พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 314 เสียง และยังมีรายงานด้วยว่าพรรคชาติพัฒนากล้า ซึ่งมีว่าที่ สส.อยู่ 2 เสียง ก็ตอบรับที่จะมาร่วมรัฐบาลแล้วด้วยเช่นเดียวกัน โดยหากเป็นไปตามนี้ก็จะทำให้ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลมีทั้งหมด 10 พรรค รวม 316 เสียง

ซึ่งหากจะฝ่าด่านเลือกนายกรัฐมนตรี 376 เสียงให้ได้ ก็ยังต้องหาเสียงให้ได้อีก 62 เสียง โดยในขณะนี้มี สว.ราว 16 คนแล้ว ที่ประกาศต่อสาธารณะว่าจะโหวตให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เท่ากับว่าตอนนี้ยังขาดเสียงอยู่อีก 44 เสียง

พรรคก้าวไกล พลิกเกมแก้ ม.112 ในสภาฯ ไม่ใส่ใน เอ็มโอยู 
อีกประเด็นที่จับตากันมากคือ การแก้ไขมาตรา 112 ตกลงจะอยู่ใน MOU ร่วมรัฐบาลหรือไม่ คำตอบคือ ณ ขณะนี้มีคำยืนยันจากหลายพรรคว่า ไม่น่าจะอยู่ใน MOU เพราะเป็นประเด็นร้อน และอ่อนไหวเกินไป จึงต้องการลดกระแสกดดัน เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลมีอุปสรรคน้อยที่สุด

ขณะที่ คุณพริษฐ์ วัชรสินธุ จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล ระบุชัดเจนว่า การผลักดันแก้ไขมาตรา 112 จะดำเนินการผ่านสภาผู้แทนราษฎร ด้วยเสียง สส.ของพรรคก้าวไกล โดยจะไม่มีการบรรจุเรื่องดังกล่าวไว้ใน MOU พรรคร่วมรัฐบาล

จากเรื่องมาตรา 112 มาดูปัญหาเรื่องกฎหมายที่คุณพิธา ต้องผ่านให้ได้ จากกรณี คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องต่อ กกต.ให้สอบว่ามีคุณสมบัติต้องห้าม จากการถือหุ้นไอทีวีหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต.

กกต. รอเคาะผิดไม่ผิด ปม พิธา ถือหุ้นสื่อ หลังประกาศรับรอง สส.
มีรายงานว่า สำนักงาน กกต. ได้มีการพิจารณาข้อกฎหมาย แล้วเห็นว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 61 กำหนดเฉพาะก่อนวันเลือกตั้งเท่านั้นที่หาก กกต. เห็นว่าผู้สมัครของพรรคการเมืองใด ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ให้ถอนชื่อผู้นั้นออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร แต่ขณะนี้เป็นช่วงหลังวันเลือกตั้ง กฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ กกต. ดำเนินการส่งเรื่องนี้ไปให้ศาลใดพิจารณา หากดำเนินการสืบสวนสอบสวนเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จ 

ขณะที่ รัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคท้าย ได้บัญญัติไว้ว่า กรณี กกต. เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส. หรือสมาชิกวุฒิสภา คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) เนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 ให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ด้วย ดังนั้นช่องทางที่ กกต.จะดำเนินการเรื่องนี้ หากมีมติว่า นายพิธา มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัคร ส.ส.ได้ จะต้องเป็นหลัง กกต.ประกาศรับรองคุณพิธา เป็น สส. แล้ว ซึ่งถ้าหากเป็นไปตามนี้ ขั้นตอนก็จะเหมือนกรณีคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในปี 2562

หุ้นไทยร่วงต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี 
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทย หลังเลือกตั้งปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้แตะระดับ 1,520 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ รวม 4 วันหลังเลือกตั้ง เทขายแล้วเกือบหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าและค้าปลีกออกมาอย่างต่อเนื่อง

เนื่องจากถูกมองว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกลที่ไม่เอื้อนายทุนผูกขาด ประกอบกับนักลงทุนขายเพื่อลดความเสี่ยงและรอดูความชัดเจนของ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาลด้วย ที่จะเปิดเผยออกมาในวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคมนี้

กกต. ให้เลือกตั้งใหม่ในหน่วยเลือกตั้งที่ 10 จ.นครปฐม
ส่วนหน่วยเลือกตั้งที่ 10 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม เกิดเหตุฝนตกหนักและลมพัดแรง ทำให้ปะรำที่เลือกตั้งล้ม ได้รับความเสียหาย ในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาและในระหว่างนั้นมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนมาปรากฎตัวในที่เลือกตั้ง แต่คณะกรรมการประจำหน่วยได้ประกาศงดลงคะแนน จึงไม่อาจใช้สิทธิเลือกตั้งได้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ออกคำสั่ง ให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในหน่วยดังกล่าวใหม่ ในวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม