พระเสพยาบ้าจนคลุ้มคลั่ง ใช้มีดแทงพระวัดเดียวกันไส้ทะลักจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ต.ท เดชา รัตนภักดี พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุ มีพระแทงพระจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณวัดไม้รวก เขตเทศบาลท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบพระสาธิต อายุ 53 ปี นอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ตรงบันไดทางขึ้นกุฏิ พบมีบาดแผล ถูกแทงเข้าบริเวณหน้าท้องจนไส้ทะลักออกมากองด้านนอก จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งต่อโรงพยาบาลท่าเรือ
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ พระธวัช อายุ 36 ปี ได้หลบหนีไปอยู่ที่บริเวณศาลาวัดกลาง ซึ่งห่างจากวัดไม้รวก ประมาณ 300 เมตร พร้อมอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจุดท่าเรือเข้าเกลี้ยกล่อม จนสามารถควบคุมตัวได้ ซึ่งพระธวัช มีอาการตึงเครียด ไม่ยอมพูดยอมจา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวไปทำการสึกที่วัดไม้รวก แต่พระธวัชไม่ยอมสึกและไม่ยอมเบ่งวาจาลาสิกขา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องช่วยกันจับถอดสบงที่สวมใส่ แต่พระธวัชชัยฮึดสู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงช่วยกันจับล็อกใส่กุญแจมือ และจับสึกทันที จากนั้นพาไปตรวจค้นภายในกุฏิพบอุปกรณ์การเสพยาบ้า จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานและนำตัวมาที่โรงพัก เพื่อส่งตัวตรวจหาสารเสพติดในร่างกายที่โรงพยาบาลท่าเรือ
สอบถาม นายสมจิต อายุ 63 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เห็นพระธวัชนั่งรถตุ๊กๆ มาลงบริเวณข้างกุฏิพระสาธิต ก่อนจะเดินขึ้นกุฎิไป ถามก้ไม่พูดไม่จา จากนั้นก็ได้ยินเสียงพระธวัชเขย่าประตูเสียงดัง สักพักนึงก็เห็นพระธวัชเดินลงจากกุฏิ โดยที่ไม่ได้มีปฏิกิริยาหรือท่าทางอะไรที่ผิดปกติ แล้วเดินออกไปข้างวัด สักพักนึงก็ได้ยินเสียง พระสาธิตมาตะโกนเรียกเจ้าอาวาสบอกว่าถูกแทงถึงได้ทราบว่ามีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันในวัด
สอบถามพระในวัดให้ข้อมูลว่าพระธวัช ผู้ก่อเหตุ ได้บวชอยู่ที่วัดไม้รวกมาได้ประมาณ 10 พรรษา จากนั้นได้หายออกจากวัดไว้ประมาณ 2 เดือน โดยบอกกับท่านเจ้าอาวาสว่าจะไปธุดงค์ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กระทั่งวันนี้ได้นั่งรถตุ๊กๆ มาลงที่วัดจากนั้นก็ไปใช้อาวุธมีดแทงพระสาธิตจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สำหรับพระธวัชกับพระสาธิตไม่เคยมีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน คาดว่าสาเหตุเกิดจากการหลอนยาจึงลงมือก่อเหตุทำไปโดยไม่รู้ตัว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา พยามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองและหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร