หมอเฉลิมชัย เผยผู้ติดโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่าน่ากังวล คาดฤดูฝนนี้ ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนัก เสียชีวิต เพิ่มมากขึ้น แนะยังจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง หยุดยั้งการระบาด จะได้ไม่นำมาตรการคุมโควิดต่าง ๆ กลับมาใช้อีก
วันนี้ (23 พ.ค.66) น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่าน blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” ว่า จากที่มีการคาดการณ์ว่า เมื่อประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน จะเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ที่ทำให้เกิดการระบาดเพิ่มขึ้นของโควิด ซึ่งคาดการณ์ได้ยากว่า จะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด
จากการติดตามตัวเลขสถิติสำคัญ 4 ตัวคือ
1) ผู้ติดเชื้อยืนยันด้วยพีซีอาร์
2) ผู้เสียชีวิต
3) ผู้ป่วยปอดอักเสบ
4) ผู้ป่วยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
พบว่าในช่วงฤดูร้อนและก่อนเทศกาลสงกรานต์คือ ช่วงสัปดาห์ 2-8 เมษายน 2566 เรามีสถานการณ์โควิดที่ควบคุมได้ดีมากคือ ติดเชื้อ 168 รายต่อสัปดาห์ เสียชีวิต 2 ราย ปอดอักเสบ 19 เตียง ใช้เครื่องช่วยหายใจ 14 เตียง
แต่เมื่อผ่านเทศกาลสงกรานต์มาแล้ว โควิดก็ขยับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ 16-22 เมษายน 2566 พบ ผู้ติดเชื้อ 1088 รายต่อสัปดาห์ เสียชีวิต 5 ราย ปอดอักเสบ 73 เตียง ใช้เครื่องช่วยหายใจ 35 เตียง
เมื่อนำตัวเลข ณ ปัจจุบันคือ 14-20 พฤษภาคม 2566 เปรียบเทียบกับตัวเลขช่วงต่ำสุดในฤดูร้อนก่อนสงกรานต์ 2-8 เมษายน 2566 จะพบการเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลดังนี้
1) ติดเชื้อแบบพีซีอาร์เพิ่มจาก 168 ราย เป็น 2632 ราย เพิ่มขึ้น 15.7 เท่าตัว
2) เสียชีวิต เพิ่มจาก 2 ราย เป็น 64 ราย เพิ่มขึ้น 32 เท่าตัว
3) มีอาการปอดอักเสบ เพิ่มจาก 19 เตียงเป็น 401 เตียง เพิ่มขึ้น 21.1 เท่าตัว
4) ป่วยหนักมากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพิ่มจากจาก 14 เตียงเป็น 226 เตียง เพิ่มขึ้น 16.1 เท่าตัว
ดังนั้น การคาดการณ์สถานการณ์โควิดในฤดูฝนของประเทศไทย จึงน่าจะเป็นไปตามหลักวิชาการ ที่บอกว่า โควิดน่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยหนัก และผู้เสียชีวิตก็เหลือเพียงมาตรการต่างๆ ที่พวกเราจะต้องช่วยกันควบคุมสถานการณ์โควิดในฤดูฝนนี้ ไม่ให้พุ่งสูงขึ้น เพื่อที่จะทำให้มาตรการทางเศรษฐกิจและสังคมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังสามารถเดินหน้าผ่อนคลายต่อไปได้ เหมือนที่ผ่านมาตลอดฤดูร้อน จึงจำเป็นที่พวกเราทุกคนต้องไม่ประมาท จะต้องเน้นเรื่องการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและในผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง รวมทั้งยังควรใส่หน้ากากอนามัย ในกิจกรรมหรือสถานที่ ที่มีความเสี่ยง ตลอดจนยังต้องยึดหลักพื้นฐาน ในเรื่องการล้างมือ การไม่นำมือมาสัมผัสกับใบหน้า
ทั้งนี้ ก็เพื่อให้เราไม่ต้องยกระดับความเข้มของมาตรการสาธารณสุขในการควบคุมโควิดขึ้นมาอีก ซึ่งจะกระทบกับมิติทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น
