ชาวบ้านผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผวาหวั่นถูกดูดเงิน หลังนำรหัสบัตรแลกสิ่งของพ่อค้ารถเร่ ด้านคลังจังหวัดเผยระบาดหนักในภาคอีสานเตือนอย่าหลงเชื่อ
(23 พ.ค.66) ชาวบ้าน และผู้สูงอายุหลายหมู่บ้านในตำบลเมืองแฝก อำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รู้สึกกังวลหลังหลงเชื่อนำรหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเลข 13 หลักบนบัตรประจำตัวประชาชน ไปแลกสิ่งของอุปโภคบริโภค อาทิ ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง น้ำยาล้างจาน และของใช้อื่น ๆ กับพ่อค้ารถเร่ที่ไปตระเวนรับแลกตามหมู่บ้าน
ชาวบ้าน และผู้สูงอายุไม่รู้ว่าพ่อค้ารถเร่ดังกล่าวได้เข้าร่วมโครงการของรัฐถูกต้องหรือไม่ แต่เห็นว่ามาให้บริการถึงหมู่บ้าน ไม่ต้องไปร้านประจำที่ห่างไป 2-3 กิโลเมตร จึงคิดว่าสะดวกและประหยัด
แต่ตอนนี้เริ่มกังวลกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพมาหลอกเอารหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้โดยไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเสียหาย หรืออาจจะดูดเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ รัฐโอนมาช่วยเหลือเดือนละ 300 บาท จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกดูดเงินในบัตร หรือไปดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทำให้เกิดความเสียหาย
นางบุญเลียน อายุ 66 ปี และนางบุญมา อายุ 61 ปี ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและหลงเชื่อนำรหัสบัตรไปแลกสิ่งของกับพ่อค้ารถเร่ บอกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรถกระบะคันหนึ่งมีผู้หญิง 1 คนชาย 1 คน มาจอดที่หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน เชิญชวนให้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถนำรหัสบัตรมาแลกสิ่งของในรถได้ จึงมีชาวบ้านและผู้สูงอายุหลายหมู่บ้านเกือบ 100 คน นำรหัสบัตรมาแลกสิ่งของ แต่เขาจำกัดให้แลกได้คนละไม่เกิน 80 บาท หากใครแลกก็จะหัก 20 เปอร์เซ็นต์ โดยเขาก็ใช้มือถือถ่ายรหัสบัตรและเลขบัตรประชาชนไปโดยไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนหักเงินในบัตร
ขณะที่ น.ส.ขวัญใจ พรานุสรณ์ คลังจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดบุรีรัมย์พบมิจฉาชีพมาในลักษณะของรถเร่ พร้อมอ้างว่าจะโอนเงินจำนวนหนึ่งเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อแลกกับรหัสบัตรของชาวบ้าน ซึ่งกรณีนี้ทางคลังจังหวัดยืนยันว่า ไม่มีนโยบายดังกล่าวอย่างแน่นอน ซึ่งจากข้อมูลพบมิจฉาชีพที่มารูปแบบดังกล่าวระบาดมากในพื้นที่ภาคอีสาน จึงขอย้ำเตือนประชาชนอย่าไปหลงเชื่อห้ามให้รหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนแก่บุคคลอื่น ส่วนใครที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว ขอให้รีบแจ้งเปลี่ยนรหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน หรือธนาคาร ธ.ก.ส. โดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้นในภายหลัง