ผู้สูงอายุชาวบุรีรัมย์ ผวา!หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หลอกขอรหัสบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร แลกสิ่งของอุปโภคบริโภค หวั่นถูกดูดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ผู้สูงอายุชาวบุรีรัมย์ ผวา!หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หลอกขอรหัสบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร แลกสิ่งของอุปโภคบริโภค หวั่นถูกดูดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

View icon 557
วันที่ 23 พ.ค. 2566
ข่าวในประเทศ
แชร์
ผู้สูงอายุ ชาวบุรีรัมย์ ผวา!หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หลอกขอรหัสบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร แลกสิ่งของอุปโภคบริโภค หวั่นถูกดูดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คลังจังหวัดเตือนอย่าหลงเชื่อ พบระบาดในหลายพื้นที่ภาคอีสาน


ผวา! หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หวั่นถูกดูดเงินบัตรคนจน  (23 พ.ค.66)   ชาวบ้าน  และผู้สูงอายุหลายหมู่บ้านในตำบลเมืองแฝก  อำเภอลำปลายมาศ  จ.บุรีรัมย์  ต่างรู้สึกกังวลหลังหลงเชื่อนำรหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเลข 13 หลักบนบัตรประจำตัวประชาชน ไปแลกสิ่งของอุปโภคบริโภค อาทิ ไข่ไก่   บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ปลากระป๋อง  น้ำยาล้างจาน และของใช้อื่นๆ กับพ่อค้ารถเร่ที่ไปตระเวนรับแลกตามหมู่บ้าน   โดยที่ชาวบ้าน และผู้สูงอายุไม่รู้ว่าพ่อค้ารถเร่ดังกล่าวได้เข้าร่วมโครงการของรัฐถูกต้องหรือไม่    แต่เห็นว่าเขาไปให้บริการถึงหมู่บ้านเพียงแค่เอารหัสบัตร หรือเลขบัตรประชาชนให้ก็สามารถแลกได้แต่จะถูกหัก 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนของที่แลก    จึงคิดว่าสะดวกและประหยัดเพราะไม่ต้องเดินทางไปแลกกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการที่เคยแลกประจำ แต่อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 2 – 3 กิโลเมตร  ทำให้ผู้สูงอายุบางคนไม่สะดวกที่จะเดินทาง   เมื่อมีรถมาบริการถึงหมู่บ้านจึงหลงเชื่อ   แต่ตอนนี้เริ่มกังวลกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพมาหลอกเอารหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้โดยไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเสียหาย หรืออาจจะดูดเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ รัฐโอนมาช่วยเหลือเดือนละ 300 บาท   จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่  เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกดูดเงินในบัตร หรือไปดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทำให้เกิดความเสียหาย

นางบุญเลียน    ที่รัก  อายุ 66 ปี   และนางบุญมา  วิเดชรัมย์  อายุ 61 ปี  ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและหลงเชื่อนำรหัสบัตรไปแลกสิ่งของกับพ่อค้ารถเร่  บอกว่า  เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรถกระบะคันหนึ่งมีผู้หญิง 1 คนชาย 1 คนมากับรถมาจอดที่หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน  เชิญชวนให้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถนำรหัสบัตรมาแลกสิ่งของในรถได้  ซึ่งก็มีทั้งไข่ไก่  ปลากระป๋อง  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และของใช้ในชีวิตประจำวันหลายอย่างได้   ชาวบ้านก็คิดว่าอาจจะเป็นร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการออกมาให้บริการตามหมู่บ้าน   จึงมีชาวบ้านและผู้สูงอายุหลายหมู่บ้านเกือบ 100 คน นำรหัสบัตรมาแลกสิ่งของ  แต่เขาจำกัดให้แลกได้คนละไม่เกิน 80 บาท หากใครแลกก็จะหัก 20 เปอร์เซ็นต์  ชาวบ้านเห็นว่าสะดวกดีไม่ต้องเดินทางไปไกลจึงพากันมาแลก   โดยเขาก็ใช้มือถือถ่ายรหัสบัตรและเลขบัตรประชาชนไปโดยไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนหักเงินในบัตร    แต่ตอนนี้เริ่มกังวลว่าอาจจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพมาหลอกเอารหัสบัตร  พอรัฐโอนเงินให้ก็ดูดเอาเงินในบัตรไป หรืออาจจะนำไปใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเสียหายได้ ก็อยากให้รัฐตรวจสอบ  และแนะนำด้วยว่าต้องแก้ไขอย่างไร

ขณะที่ น.ส.ขวัญใจ   พรานุสรณ์ คลังจังหวัดบุรีรัมย์   เปิดเผยว่า  ขณะนี้จังหวัดบุรีรัมย์พบมิจฉาชีพมาในลักษณะของรถเร่  ตระเวนแจกสิ่งของอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็น ไข่ไก่, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำยาล้างจาน และอื่นๆ พร้อมอ้างว่าจะโอนเงินจำนวนหนึ่งเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  เพื่อแลกกับรหัสบัตรของชาวบ้าน ซึ่งกรณีนี้ทางคลังจังหวัดยืนยันว่า ไม่มีนโยบายดังกล่าวอย่างแน่นอน   ซึ่งจากข้อมูลพบมิจฉาชีพที่มารูปแบบดังกล่าวระบาดมากในพื้นที่ภาคอีสาน   จึงขอย้ำเตือนประชาชนอย่าไปหลงเชื่อห้ามให้รหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนแก่บุคคลอื่น  ส่วนใครที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว ขอให้รีบแจ้งเปลี่ยนรหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน หรือธนาคาร ธ.ก.ส. โดยทันที    เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้นในภายหลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง