ผู้สูงอายุชาวบุรีรัมย์ ผวา!หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หลอกขอรหัสบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร แลกสิ่งของอุปโภคบริโภค หวั่นถูกดูดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ผู้สูงอายุชาวบุรีรัมย์ ผวา!หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หลอกขอรหัสบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร แลกสิ่งของอุปโภคบริโภค หวั่นถูกดูดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

View icon 949
วันที่ 23 พ.ค. 2566 | 10.44 น.
ข่าวในประเทศ
แชร์
ผู้สูงอายุ ชาวบุรีรัมย์ ผวา!หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หลอกขอรหัสบัตรประชาชนและเลขหลังบัตร แลกสิ่งของอุปโภคบริโภค หวั่นถูกดูดเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คลังจังหวัดเตือนอย่าหลงเชื่อ พบระบาดในหลายพื้นที่ภาคอีสาน


ผวา! หลงเชื่อพ่อค้ารถเร่ หวั่นถูกดูดเงินบัตรคนจน  (23 พ.ค.66)   ชาวบ้าน  และผู้สูงอายุหลายหมู่บ้านในตำบลเมืองแฝก  อำเภอลำปลายมาศ  จ.บุรีรัมย์  ต่างรู้สึกกังวลหลังหลงเชื่อนำรหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเลข 13 หลักบนบัตรประจำตัวประชาชน ไปแลกสิ่งของอุปโภคบริโภค อาทิ ไข่ไก่   บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ปลากระป๋อง  น้ำยาล้างจาน และของใช้อื่นๆ กับพ่อค้ารถเร่ที่ไปตระเวนรับแลกตามหมู่บ้าน   โดยที่ชาวบ้าน และผู้สูงอายุไม่รู้ว่าพ่อค้ารถเร่ดังกล่าวได้เข้าร่วมโครงการของรัฐถูกต้องหรือไม่    แต่เห็นว่าเขาไปให้บริการถึงหมู่บ้านเพียงแค่เอารหัสบัตร หรือเลขบัตรประชาชนให้ก็สามารถแลกได้แต่จะถูกหัก 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนของที่แลก    จึงคิดว่าสะดวกและประหยัดเพราะไม่ต้องเดินทางไปแลกกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการที่เคยแลกประจำ แต่อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 2 – 3 กิโลเมตร  ทำให้ผู้สูงอายุบางคนไม่สะดวกที่จะเดินทาง   เมื่อมีรถมาบริการถึงหมู่บ้านจึงหลงเชื่อ   แต่ตอนนี้เริ่มกังวลกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพมาหลอกเอารหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้โดยไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเสียหาย หรืออาจจะดูดเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ รัฐโอนมาช่วยเหลือเดือนละ 300 บาท   จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบว่าเป็นมิจฉาชีพหรือไม่  เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกดูดเงินในบัตร หรือไปดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทำให้เกิดความเสียหาย

นางบุญเลียน    ที่รัก  อายุ 66 ปี   และนางบุญมา  วิเดชรัมย์  อายุ 61 ปี  ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและหลงเชื่อนำรหัสบัตรไปแลกสิ่งของกับพ่อค้ารถเร่  บอกว่า  เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรถกระบะคันหนึ่งมีผู้หญิง 1 คนชาย 1 คนมากับรถมาจอดที่หน้าบ้านผู้ใหญ่บ้าน  เชิญชวนให้ผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถนำรหัสบัตรมาแลกสิ่งของในรถได้  ซึ่งก็มีทั้งไข่ไก่  ปลากระป๋อง  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และของใช้ในชีวิตประจำวันหลายอย่างได้   ชาวบ้านก็คิดว่าอาจจะเป็นร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการออกมาให้บริการตามหมู่บ้าน   จึงมีชาวบ้านและผู้สูงอายุหลายหมู่บ้านเกือบ 100 คน นำรหัสบัตรมาแลกสิ่งของ  แต่เขาจำกัดให้แลกได้คนละไม่เกิน 80 บาท หากใครแลกก็จะหัก 20 เปอร์เซ็นต์  ชาวบ้านเห็นว่าสะดวกดีไม่ต้องเดินทางไปไกลจึงพากันมาแลก   โดยเขาก็ใช้มือถือถ่ายรหัสบัตรและเลขบัตรประชาชนไปโดยไม่รู้ว่าเขาจะใช้วิธีไหนหักเงินในบัตร    แต่ตอนนี้เริ่มกังวลว่าอาจจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพมาหลอกเอารหัสบัตร  พอรัฐโอนเงินให้ก็ดูดเอาเงินในบัตรไป หรืออาจจะนำไปใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดความเสียหายได้ ก็อยากให้รัฐตรวจสอบ  และแนะนำด้วยว่าต้องแก้ไขอย่างไร

ขณะที่ น.ส.ขวัญใจ   พรานุสรณ์ คลังจังหวัดบุรีรัมย์   เปิดเผยว่า  ขณะนี้จังหวัดบุรีรัมย์พบมิจฉาชีพมาในลักษณะของรถเร่  ตระเวนแจกสิ่งของอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็น ไข่ไก่, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, น้ำยาล้างจาน และอื่นๆ พร้อมอ้างว่าจะโอนเงินจำนวนหนึ่งเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  เพื่อแลกกับรหัสบัตรของชาวบ้าน ซึ่งกรณีนี้ทางคลังจังหวัดยืนยันว่า ไม่มีนโยบายดังกล่าวอย่างแน่นอน   ซึ่งจากข้อมูลพบมิจฉาชีพที่มารูปแบบดังกล่าวระบาดมากในพื้นที่ภาคอีสาน   จึงขอย้ำเตือนประชาชนอย่าไปหลงเชื่อห้ามให้รหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนแก่บุคคลอื่น  ส่วนใครที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว ขอให้รีบแจ้งเปลี่ยนรหัสบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน หรือธนาคาร ธ.ก.ส. โดยทันที    เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้นในภายหลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง