"พิธา" ยันก้าวไกลดัน 300 นโยบาย พร้อมเดินสายพบภาคธุรกิจฟื้นความเชื่อมั่น

"พิธา" ยันก้าวไกลดัน 300 นโยบาย พร้อมเดินสายพบภาคธุรกิจฟื้นความเชื่อมั่น

View icon 116
วันที่ 23 พ.ค. 2566 | 16.14 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"พิธา" ยัน ก้าวไกลดัน 300 นโยบาย พร้อมเดินสายพบภาคธุรกิจฟื้นความเชื่อมั่น ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท มีนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการคู่ขนาน ขอให้นักลงทุนมั่นใจ คนนั่งรัฐมนตรี มีความรู้ความสามารถบริหารการเงินการคลัง

วันนี้ (23 พ.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังการลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน หรือ MOU จัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคการเมืองว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจดังกล่าวฯ เป็นเพียงข้อตกลงวาระการทำงานขั้นต่ำ ของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลตกลงกัน ที่ประชาชนสามารถคาดหวังได้ แต่ในขณะเดียวกัน หลายประเด็นที่ประชาชนยังคาดหวังจะเห็นความเปลี่ยนแปลงจากพรรคก้าวไกล ทั้ง 300 นโยบาย พรรคก้าวไกลก็สามารถผลักดันผ่าน สส.และรัฐมนตรีเป็นวาระเฉพาะได้เช่นกัน แม้บางกระทรวงที่พรรคก้าวไกลไม่ได้ตำแหน่งรัฐมนตรี ก็สามารถให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลช่วยผลักดันได้ เช่น พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด พ.ร.บ.การบริหารสิ่งแวดล้อม พ.ร.บ.การกำหนดคำนำหน้าชื่อตามอัตลักษณ์ทางเพศ

นายพิธากล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาบางประเด็นใน MOU ว่าอาจเป็นบ่วงรัดคอพรรคก้าวไกล โดยนายพิธามองว่าเป็นความกังวลใจของนายปิยบุตร แต่เนื้อหาภายใน MOU นั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า ตนกับนายปิยบุตร ไม่ได้มีความขัดแย้งกันในภาพรวม และทุกพรรคการเมืองก็เห็นชอบร่วมกันในภาพรวมของ MOU ดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และการฟอร์มคณะรัฐมนตรี นายพิธา กล่าวว่า ระหว่างนี้จะเดินสายพบปะประชาชน และต่อไปจะเชิญพรรคร่วมฯ มาร่วมพูดคุยรับฟังกันมากขึ้น เพราะรัฐบาลจะต้องทำนโยบายร่วม ส่วนการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรีนั้นจะคำนึงถึงบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งแน่นอน

ส่วนที่นักลงทุน จับตาการแต่งตั้งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการเงินการคลังของประเทศ และมีความห่วงกังวล จนทำให้ตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวน นายพิธามองว่า ความห่วงกังวลนี้ไม่ได้มาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ หรือความไม่เชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ แต่เกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนทางการเมือง ความไม่แน่นอนในระบบประชาธิปไตย ว่าพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งจะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ หากเจตจำนงของประชาชนไม่สูญเปล่า เศรษฐกิจและตลาดการเงินของไทยไปต่อได้แน่นอน  โดยขอให้นักลงทุนมั่นใจ คนที่จะมาทำหน้าที่รัฐมนตรี จะเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ในการบริหารการเงินการคลังของประเทศ

ส่วนการพบกับผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมนั้น เพื่อหารือถึงขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยนายพิธายืนยันว่า พรรคก้าวไกลเห็นถึงความจำเป็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท แต่จะมีนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการคู่ขนานไปด้วย เช่น การช่วยสบทบเงินประกันสังคมแรงงาน 6 เดือน หรือการช่วยลดภาษี เป็นต้น และในวันศุกร์นี้ ก็จะเดินสายไปพบกับหอการค้า สภาแรงงาน สภา SMEs และภาคส่วนอื่น ๆ ต่อไป เพื่อรับฟังปัญหา และรับฟังข้อมูล เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อทั้งนายจ้าง และแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานได้