พิธา เตรียมเดินสายหารือคุณทุกฝ่าย เดินหน้านโยบายขับเคลื่อนประเทศ

View icon 25
วันที่ 24 พ.ค. 2566 | 05.15 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - พรรคก้าวไกล ประกาศเดินหน้า 300 นโยบาย เตรียมเดินสายพูดคุยทุกฝ่ายขับเคลื่อนประเทศ ขณะที่ อาจารย์วิษณุ เปิดเผยไทม์ไลน์จัดทั้งรัฐบาล คาดว่าภายในวันที่ 10 สิงหาคม จะมีรัฐมนตรีชุดใหม่

พิธา เตรียมเดินสายหารือ คุณทุกฝ่าย เดินหน้า นโยบายขับเคลื่อนประเทศ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ย้ำว่า 300 นโยบายของพรรค แม้จะไม่ได้อยู่ใน MOU ตั้งรัฐบาลทั้งหมด แต่จะผลักดันผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร และรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ของพรรค และแม้บางกระทรวงที่พรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ก็สามารถให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงของพรรคร่วมรัฐบาลช่วยผลักดันได้ เช่น พ.ร.บ.น้ำประปาสะอาด, พ.ร.บ.การบริหารสิ่งแวดล้อม, พ.ร.บ.การกำหนดคำนำหน้าชื่อตามอัตลักษณ์ทางเพศ และระหว่างนี้จะเดินสายพบปะประชาชนต่อไป และจะเชิญพรรคร่วมมาร่วมรับฟังกันมากขึ้น เพราะรัฐบาลจะต้องทำนโยบายร่วม เพื่อแถลงต่อรัฐสภาฯ ซึ่งการแต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรีนั้นจะคำนึงถึงบุคคลที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งแน่นอน

คาด 10 ส.ค. มี ครม.ใหม่
ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งไทม์ไลน์การจัดตั้งรัฐบาลว่า ในวันที่ 13 กรกฎาคม จะเป็นวันสุดท้ายที่ กกต. ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง จากนั้นคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และในวันที่ 20 กรกฎาคม จะเป็นวันสุดท้ายที่ให้ สส.รายงานตัว

จากนั้นวันที่ 24 กรกฎาคม จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และกำหนดเปิดประชุมสภาฯ ในวันถัดไป เพื่อเลือกประธานสภาฯ ก่อนที่จะเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 3 สิงหาคม เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นวันที่ 10 สิงหาคม จะมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี และวันที่ 11 สิงหาคม เมื่อมีการถวายสัตย์ปฏิญาณฯแล้ว จะถือว่าสิ้นสุดการทำหน้าที่ของรัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบัน

นายวิษณุ ระบุด้วยว่า อำนาจของ สว. ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี จะสิ้นสุดลงในวันที่ 11 พฤษภาคมปีหน้า ดังนั้นหากจะยื้อรอเวลาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไปถึงช่วงเวลานั้น ก็อาจนานเกินไป และไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อประเทศ

สำหรับท่าทีของ สว. ต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ หนึ่งใน สว.ที่ยืนยันว่าจะไม่โหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การชุมนุมกดดันวันนี้ จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจอย่างแน่นอน และแม้เรื่องการแก้ไขมาตรา 112 จะไม่ได้บรรจุอยู่ใน MOU จัดตั้งรัฐบาล แต่ท่าทีของ นายพิธา ก็ยังเดินหน้าที่จะแก้ไขมาตราดังกล่าว

ด้าน นายวันชัย สอนศิริ สว. มองว่าเสียงของ สว. แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ชัดเจนว่าโหวตหรือไม่โหวต งดออกเสียง และสงวนท่าทีรอจนถึงวันลงมติ เพราะยังมีเวลาติดตามสถานการณ์ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าพรรคก้าวไกลคงมีวิธีสื่อสารกับ สว.ที่ยังมีความกังวล และเห็นว่าการชุมนุมอาจมีผลต่อการตัดสินใจ และ สว.คงไม่ปฏิเสธเสียงของประชาชน

เรื่องการจัดการตั้งรัฐบาล หรือลงนามบันทึกความเข้าใจของ 8 พรรคร่วมรับบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ขอให้ความเห็น ทั้งยังขอร้องสื่อมวลชน อย่าจับจ้องเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะเป็นช่วงที่ต้องรักษาสถานการณ์ให้เป็นปกติมากที่สุด ทุกคนควรอยู่ในความสงบเรียบร้อย ระบุ ตั้งรัฐบาลเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง ส่วนรัฐบาลรักษาการก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จนกว่าจะไม่ได้ทำเท่านั้นเอง ยากตรงไหน พร้อมกำชับให้คณะรัฐมนตรี รวบรวมผลงานและการดำเนินงาน เพื่อส่งมอบให้กับรัฐบาลใหม่ ช่วงนี้ยังไม่สามารถเริ่มโครงการใหม่ได้ เพราะมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ที่ต้องผูกพันไปถึงรัฐบาลหน้า และต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง

ส่วนกรณีที่นักลงทุนต่างชาติ เทขายพันธบัตรในตลาดตราสารหนี้สุทธิมากขึ้น พลเอกประยุทธ์ ได้เตรียมมาตรการรับมือไว้ เชื่อว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะต่างชาติไม่แน่ใจในสถานการณ์การเมือง ระหว่างนี้ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะไปบังคับให้ต่างชาติซื้อหรือขายคงไม่ได้ แต่อยู่ที่พวกเราทุกคน จะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เปลี่ยนผ่านรัฐบาลไปได้ด้วยดี ความมั่นคงก็จะกลับมา

บิ๊กป้อม ยัน ยังเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ขณะที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชน ด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส ยืนยันยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต่อไป และยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้ และไม่มีความคิดที่จะวางมือทางการเมือง รวมถึงจะยุบพรรคพลังประชารัฐ และไปรวมกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเรื่องทั้งหมดจะต้องไปถามคนที่พูดในเรื่องนี้ว่าต้องการอะไร

ในขณะที่ผู้สื่อข่าวก็พยายามสอบถามเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และการทำ MOU ของ 8 พรรคการเมือง แต่พลเอกประวิตร กล่าวเพียงว่ารับทราบแล้ว และไม่แสดงความเห็นใดเพิ่มเติม ต่อประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล

สายเขียว เตรียมชุมนุมหลังจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนประเด็นกัญชา เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ประกาศเตรียมชุมนุมหลังจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกลเสร็จสิ้น เนื่องจาก พรรคก้าวไกล และพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ทำให้เครือข่ายฯ รู้สึกผิดหวังต่อนโยบาย จึงอยากให้ นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาชี้แจงข้อดี-ข้อเสียของกัญชา สุรา และบุหรี่ โดยยึดหลักงานวิจัยเท่านั้น เพื่อหาข้อสรุปว่า 3 สิ่งนี้ อะไรให้คุณ ให้โทษมากกว่ากัน หากพบว่ากัญชามีข้อเสียมากกว่าสุรา และบุหรี่ ทางเครือฯ ยินดีสนับสนุนพรรคก้าวไกล ให้นำกัญชาไปสู่ยาเสพติดเหมือนเดิม