เปิดภาพพายุฝนพัดถล่ม จ.ชัยภูมิ หลังคาโรงรถ รพ.ปลิวว่อน ทับรถ 14 คันรวด

View icon 47
วันที่ 24 พ.ค. 2566 | 07.01 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - เปิดภาพพายุฝนพัดถล่มในพื้นที่ตัวเมือง จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (22 พ.ค.) มีลมพัดกระโชกแรง พัดกระหน่ำหลังคาโรงรถในโรงพยาบาลชัยภูมิปลิวว่อน ลอยมาทับรถที่จอดอยู่อีกฝั่งได้รับความเสียหายทั้งหมด 14 คันรวด

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงค่ำวานนี้ ขณะที่มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมพัดกระโชกแรง ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ในย่านใจกลางเมืองชัยภูมิเก็บข้าวของปิดร้านแทบไม่ทัน ขณะเดียวกัน ก็พบว่าแรงลมที่พัดกระหน่ำในครั้งนี้ทำให้หลังคาโรงรถขนาดความกว้าง 8 เมตร ยาว 40 เมตร ซึ่งอยู่ภายในโรงพยาบาลชัยภูมิ บริเวณด้านหลังตึก 10 ชั้น ปลิวว่อนลอยข้ามฝั่งมาทับรถแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล และรถของประชาชนที่จอดเรียงรายกันอยู่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 14 คันรวด มีทั้งรถเก๋ง และรถกระบะอยู่ในสภาพหลังคารถบุบยุบเสียหาย และกระจกรถแตกร้าวทั้งบาน บนอาคารผู้ป่วยฝ้าเพดานหลุดร่วง ต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยโกลาหล ประเมินความเสียหายเบื้องต้นในครั้งนี้่รวมกว่า 7 ล้านบาท

ส่วนที่ อำเภอลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ เกิดเหตุระทึกเช่นกัน พายุฝนพัดถล่มลงมาอย่างหนัก ทำให้โดมเหล็กล้อเลื่อนอเนกประสงค์ภายในลานวัดศรีสุธรรมาราม ถูกแรงลมพัดปลิวว่อนลอยละลิ่วขึ้นไปค้างอยู่บนหลังคาชั้นสองของศาลาการเปรียญวัด ห่างไปประมาณ 30 เมตร ท่ามกลางความตกใจของพระลูกวัดที่พบเห็นจึงได้แจ้งกับเจ้าอาวาสวัดให้ทราบเรื่อง พร้อมกับประสานไปทางผู้ใหญ่บ้านนำรถเครนมายกโดมเหล็กลงมาจากหลังคาศาลาการเปรียญวัดในสภาพได้รับความเสียหายไม่มากนัก โดยโดมเหล็กที่เห็นอยู่นี้มีขนาดความกว้าง 4 เมตร ยาว 8 เมตร และสูง 3 เมตร

ต่อกันที่ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พายุฝนพัดกระหน่ำรุนแรง ทำให้เสาไฟฟ้าข้างทางริมถนนสายบางขัน-หนองเสือ ช่วงต่อเนื่องคลองแปดและคลองเก้า ตำบลบึงชำอ้อ หักโค่นล้มลงมากว่า 30 ต้น กองอยู่บนพื้นถนนกีดขวางการจราจร และมีไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน แถมยังล้มทับรถที่วิ่งผ่านไปมาในหลายจุดได้รับความเสียหายหลายคัน โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.หนองเสือ ได้ปิดการจราจรในเส้นทางจุดเกิดเหตุทันที พร้อมแจ้งประชาชนให้ไปใช้เส้นทางอื่นแทน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้ามาสำรวจความเสียหายและเคลียร์พื้นที่อย่างเร่งด่วน

ส่วนที่ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ นางบุญปลูก งามเลิศ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านชั้นเดียวหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 12 ถึงกับเข่าแทบทรุด เมื่อพบว่าหลังคาบ้านของเธอปลิวหายไปทั้งหมด มีเพียงกำแพงปูนบ้านด้านในและด้านข้างที่ยังคงอยู่ ขณะที่กำแพงปูนด้านหน้าบ้านอยู่ในสภาพพังเสียหาย ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านกระจัดกระจาย ทางนายอำเภอศรีเทพ ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำหมู่บ้านสำรวจความเสียหาย และผลกระทบความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชน พร้อมกับนำถุงยังชีพมามอบให้กับผู้ประสบภัย เบื้องต้น มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวม 12 หลังคาเรือน

ส่วนเหตุการณ์หลังคาโดมอเนกประสงค์ภายในโรงเรียนวัดเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ถล่มลงมาทับเด็กนักเรียน ครูฝึกสอนและภารโรง จนมีผู้เสียชีวิต 7 คน และบาดเจ็บ 23 คน เรื่องนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งให้กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมกับเตรียมลงพื้นที่ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ และให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิตในวันนี้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง