น.ส.ศิริกัญญา พร้อมกันนี้ยืนยันความจำเป็นที่ต้องได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ไว้กับพรรคก้าวไกล เพื่อผลักดันกฎหมายของพรรคก้าวไกล กฎหมายของพรรคร่วมรัฐบาล และกฎหมายของภาคประชาชน ผลักดัน 3 วาระสำคัญ และกฎหมาย 45 ฉบับ เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พวกเราเห็นแล้วว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ มีความสำคัญ สามารถอำนายความสะดวก หรือขัดขวางการออกกฎหมายของประชาชน ซึ่งพรรคก้าวไกลต้องผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากการเลือกตั้ง ซึ่งนโยบายนี้บรรจุเป็นเอ็มโอยูของพรรคร่วม
“ยืนยันว่า สส.ของพรรคก้าวไกลหลายคน มีวุฒิภาวะและความเหมาะสมกับตำแหน่งประธานสภาฯ ในอดีตก็มีเคยประธานสภาฯ อายุน้อย เรื่องนี้จึงไม่ใช่ประเด็น ทั้งนี้ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดได้ยาก หากยึดถืออาวุโสและประสบการณ์ และเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเล็งเห็นความหวังของประชาชนเป็นสำคัญ มั่นใจในเพื่อไทยที่จะร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ ปรากฎการณ์แทงข้างหลังไม่เกิดขึ้นแน่นอน ก้าวไกลพยายามสื่อสารอย่างชัดเจน ยังไม่มีความเชื่อใดๆ ที่พรรคเพื่อไทยจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล” น.ส.ศิริกัญญา ย้ำอีกครั้งว่า เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะล่มหัวจมท้ายไปกับพรรคก้าวไกล
ส่วนกรณีความขัดแย้งระหว่าง น.ต.ศิธา ธิวารี กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาการร่วมงานในอนาคต